เบื่อไหม? กับการที่ต้องจ่ายค่ารักษาแพงหูฉี่ ทั้งค่ายา ค่าหมอ ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์และเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อให้เรากลับมามีชีวิตเป็นปกติสุขดังเดิม

จากข้อมูลของ Deloitte Touche Tohmatsu Limited ในหัวข้อ 2014 Global health care outlook Share challenges, shared opportunities  พบว่าประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปนั้น มีจำนวนเพิ่มขึ้น 3 เท่า ในทุก ๆ 50 ปี และมีอัตราการเพิ่มขึ้นของประชากรผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นมากกว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของประชากรรวม ซึ่งแปลได้ว่าทุกวันนี้เทคโนโลยีการแพทย์นั้นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประชากรของโลกมีชีวิตยืนยาวมากขึ้น ด้วยผลของเครื่องมือ ยา และวิธีการรักษาที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง

นั่นแปลว่า ถ้าเราอยากมีชีวิตที่ยืนยาวมากขึ้น เราจำเป็นที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้น!!! แต่ครั้นจะมาคิดถึงสวัสดิการของรัฐ ก็คงจะไม่ทันการณ์แน่ ๆ เพราะฉะนั้น เราทุกคนจำเป็นต้องพึ่งตัวเองด้วยการวางแผนการเงินนั่นเองครับ และเป้าหมายที่สำคัญที่สุดของการวางแผนการเงินที่ผมคิดว่าทุกคนควรทำ นั่นคือ การวางแผนเกษียณอย่างมีความสุข

แหม่.. พูดก็พูดเถอะครับ การวางแผนเกษียณอย่างเป็นสุขนั้น ผมเชื่อว่าเราทุกคนจำเป็นที่ต้องมีเงินเป็นองค์ประกอบใหญ่ ทั้งค่าใช้จ่ายในการกินอยู่ทั่วไป และค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลเพื่อให้ชีวิตเรานั้นมีสุขภาพที่ดีไปนาน ๆ ซึ่งเครื่องมือหนึ่งที่เราทุกคนควรใช้ในการวางแผนเกษียณ นั่นคือ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ  RMF นั่นเอง

โดย RMF ถือเป็นเครื่องมือหนึ่งที่เหมาะมากในการวางแผนเกษียณ เนื่องจากเราจะได้รับสิทธิประโยชน์ถึงสองต่อ เริ่มจากต่อแรก การใช้เป็นค่าลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในอัตรา 15% ของรายได้ที่ต้องเสียภาษีเป็นจำนวนสูงสุดถึง 500,000 บาท แต่ต้องทำตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดด้วยนะครับ

กับต่อที่สอง คือ ผลตอบแทนจากการลงทุน ที่ได้รับกลับมาเมื่อครบกำหนดอายุการลงทุนตามกฎหมาย ขึ้นอยู่กับว่าเราลงทุนในสินทรัพย์ประเภทไหน เนื่องจาก RMF นั้นสามารถเลือกลงทุนได้ในสินทรัพย์มากมายหลากหลายประเภทที่มีความเสี่ยงและผลตอบแทนแตกต่างกันไป

มาถึงตรงจุดนี้ หลาย ๆ คนคงมีคำถามแล้วใช่ไหมครับว่า ควรลงทุนใน RMF ประเภทไหนดี? เพราะประเภทที่มีมากมายนั้นมันก็ทำให้เราตัดสินใจลำบากเสียเหลือเกิน เพราะถ้าลงทุนถูกที่ แน่นอนล่ะครับว่า ผลตอบแทนที่ได้แตกต่างกันเป็นทวีคูณแน่ ๆ

ทีนี้กลับมาคำถามที่ผมถามในตอนแรกครับว่า .. เบื่อไหม? กับการที่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลมากมายขนาดนี้  ซึ่งคำถามนี้ ทำให้เรารู้ว่า ถ้าเราอยากจะมีชีวิตที่ดี เราต้องรู้จักวางแผนการเงิน แต่ถ้าลองคิดต่อไปอีกสักนิด ว่ายาเป็นปัจจัย 4 ที่ไม่ว่าจะมีเงินหรือไม่มีเงิน เราก็จำเป็นต้องใช้เพื่อการรักษา ธุรกิจที่เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล (Health Care) นั้น จะเติบโตแค่ไหนในอนาคต ซึ่งจากข้อมูลของรายงานข้างต้นก็บอกเราว่า ค่าใช้จ่ายด้าน Health Care นั้นมีสัดส่วน 10.5% ของมูลค่าเศรษฐกิจโลกในปี 2014 รวมถึงประเทศมหาอำนาจ อย่าง สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น ล้วนแต่มีค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพในสัดส่วนที่สูงมาก ๆ เมื่อเปรียบเทียบกับ GDP (สหรัฐ 17.2% จีน 5.9% ญี่ปุ่น 8.15%)

ซึ่งตัวเลขที่ว่านี้ไม่เพียงแต่บอกเราว่า ต้นทุนการรักษาพยาบาลนั้นเป็นเรื่องสำคัญ แต่กำลังบอกเราว่าธุรกิจ Health Care มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการลงทุนในธุรกิจ Health Care ที่เป็นกองทุน RMF นั้นถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการลงทุนเพื่อการเกษียณและประหยัดภาษี โดยที่เราไม่จำเป็นต้องลงทุนแต่เพียงในหุ้นไทย หรือลงทุนแค่ในประเทศเพียงอย่างเดียว แต่สามารถสร้างโอกาสเพิ่มผลตอบแทนในการลงทุนไปยังกองทุนต่างประเทศที่มีการลงทุนในธุรกิจ Health Care ทั่วโลกได้เช่นเดียวกัน

โดยกองทุน KFHCARERMF : Krungsri Global Healthcare Equity RMF ถือเป็นอีกกองทุนหนึ่งที่ลงทุนในกองทุนหลัก คือ JP Morgan Global Healthcare Fund ซึ่งเน้นลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีชีวภาพ ยา เทคนิคการแพทย์ และการบริการทางการแพทย์ขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพในการเติบโตและมีผลประกอบการที่ดี ซึ่งเป็นกองทุนหลักเดียวกันกับกองทุน KF-HEALTHD นั่นเองครับ

สิ่งที่ควรระวังในการลงทุนกองทุน Health Care นั้น คงเป็นเรื่องของลิขสิทธิ์ของบริษัทต่าง ๆ ในการผลิตยา หรือเทคนิคต่าง ๆ ที่อาจจะมีคู่แข่งผลิตตัวใหม่ขึ้นมาต่อสู้ หรือสิทธิ์ที่กำลังจะหมดลงที่ทำให้คู่แข่งมีโอกาสแข่งขันได้ดีกว่า รวมถึงอุปสรรคในการกีดกันของทางภาครัฐต่าง ๆ ด้านสุขภาพที่ทำให้โอกาสของบริษัทเหล่านี้มีปัญหาได้ครับ แต่อย่างไรก็ตามผลประกอบการที่ผ่านมาของบริษัทเหล่านี้ที่กองทุนไปลงทุนก็ถือว่าสร้างผลตอบแทนได้ดีทีเดียวเลยล่ะครับ ยกตัวอย่างเช่น บริษัท Biogen Idec ที่เป็นบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพเรื่องการรักษาโรคปลอดประสาทอักเสบ (BG12) ที่มีผลตอบแทนเพิ่มขึ้นถึง 470% ภายใน 7 ปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าสูงมาก ๆ เลยล่ะครับ

หากใครกำลังมองหากองทุน RMF เพื่อเป็นทางเลือกในการลงทุนและประหยัดภาษี นอกเหนือจากการลงทุนใน LTF ที่ลงทุนเพียงแต่หุ้นในประเทศไทยเพียงอย่างเดียว และต้องการกระจายความเสี่ยงเพื่อสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นจากการลงทุนในกองทุนต่างประเทศบ้าง การลงทุนในกองทุน KFHCARERMF นั้น อาจจะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่เหมาะสมในการจัดพอร์ทลงทุนของเราครับ

สุดท้ายนี้ ถึงแม้ว่า เกิด - แก่ - เจ็บ - ตาย คือสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์ทุกคน แต่การลงทุนคือหนทางหนึ่งที่จะทำให้เรานั้น แก่ เจ็บและตายทรมานน้อยที่สุด และถ้าหากใครสนใจลงทุนในกองทุน KFHCARERMF : Krungsri Global Healthcare Equity RMF สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.กรุงศรี หรือคลิกที่ลิงก์นี้ http://www.krungsriasset.com/th/LTF_RMF_Pro_2015_th.html

หมายเหตุ : 

กองทุน KFHCARERMF จะไม่ใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงิน จึงอาจมีความเสี่ยงสูง จากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงิน คืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ | การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และคู่มือภ&