ผมเชื่อว่าหลายๆคนเมื่อได้ยินคำว่า “ภาษี” จิตใจก็รู้สึกสั่นระริกระรี้ไม่อยากจะจ่ายขึ้นมา เพราะรู้สึกใช่ไหมล่ะครับว่า เจ้าภาษีที่ว่ามันเป็นค่าใช้จ่ายที่แสนจะอึดอัด เพราะจ่ายไปแล้วก็ไม่รู้ว่าได้อะไรกลับมา แต่ขอบอกเลยครับว่าสิ่งที่เราคิดน่ะ ถูกแล้ว เพราะมันคือนิยามที่แท้จริงของคำว่าภาษีนั่นแหละครับ

ทีนี้เมื่อไม่อยากจ่าย เราก็ค้นหาวิธีแทบตายมาเพื่อประหยัดภาษีครับ ทั้งวางแผน ทั้งเลี่ยง บางครั้งก็เอียงๆไปทางหนี ซึ่งแต่ละวิธีก็มีตั้งแต่ง่ายๆ ไปจนถึงซับซ้อนระดับชาติ จนบางครั้งดูแล้วก็ประหลาดใจจนต้องอุทานขึ้นมาว่า "แหม่.. ทำไปได้" กันเลยทีเดียว

แต่ไม่ว่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆจะประหยัดภาษีอย่างไร แบบไหน มันก็ไม่แปลกอะไรอยู่แล้วครับ แต่ @TAXBugnoms มีเรื่องอยากจะเตือนไว้สักเล็กน้อยครับว่า การประหยัดภาษีแบบผิดๆอาจจะทำให้ชีวิตของเรามีปัญหาถึงขั้นบัดซบเลยก็ได้นะคร้าบ เอาล่ะ.. มาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

1. ประหยัดผิดวิธี อาจจะเสียภาษีเพิ่มขึ้นถึง 3-4 เท่า 

โดยมาจากเบี้ยปรับหรือค่าปรับทีต้องเสียเพิ่ม เนื่องจากทำผิดกฎหมายอีก 1-2 เท่าของจำนวนภาษี และยังมีดอกเบี้ย (เงินเพิ่ม) ที่คิดจากภาษีที่เราต้องเสียในอัตราเดือนละ 1.5% คิดไปเรื่อยๆจนเท่ากับจำนวนภาษี (นั่นคืออีก 1 เท่า)

ขอบอกเลยครับว่า ถ้าใครต้องเสียภาษีตามวิธีแบบนี้ ต่อไปโอกาสที่เราจะโดนตรวจสอบก็มีมากขึ้นอยู่แล้วครับ เหมือนคนที่เคยทำผิดไปแล้ว ใครก็มักจะคิดว่าคนนี้คงจะต้องทำผิดอีกแน่ๆ จากที่ชีวิตดี๊ดี กลับกลายเป็นโดนเพิ่งเล็งไปแทน เฮ้ออ แย่เลยนะครับเนี่ย - -"

บางทีการประหยัดภาษีไม่กี่บาทในวันนี้
อาจจะทำให้เรากลายเป็นหนี้ในวันหน้าก็ได้นะคร้าบ

2. คิดถึงการประหยัดค่าใช้จ่ายในภาพรวมด้วย

ไม่ว่าจะประหยัดภาษีมากแค่ไหนก็ตาม อย่าลืมเช็คดูด้วยนะครับว่า ความพยายามในการประหยัดภาษีของเรานั้น มันทำให้ค่าใช้จ่ายทั้งหมดนั้นเพิ่มมากขึ้นหรือเปล่า เพราะบางทีวิธีการลดภาษีที่เราภูมิใจนั้น มันอาจจะเพิ่มต้นทุนและภาระในชีวิตอีกมากมายตามมาก็ได้

ผมเคยเจอแฟนเพจท่านหนึ่งมาปรึกษาเรื่องวิธีการประหยัดภาษี โดยวางแผนหลบเลี่ยงซะดิบดีเลยแต่ผลสุดท้ายก็คือ แผนที่เค้าวางไว้นั้น ต้องเสียค่าใช้จ่ายอีกมากมายตามมา ทั้งเรื่องการวางระบบใหม่ไม่ให้โดนพี่สรรพากรจับได้ (เอากับพี่แกสิ!) และค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาทางกฎหมายและการเงินอีกมากมาย (โดยที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ว่ามันจะมากขนาดนี้ พูดแล้วน้ำตาจะไหล) ทีนี้พอรวมค่าใช้จ่ายนู่นนี่นั่นหลายๆตัวขึ้นมา กลายเป็นว่าจ่ายทั้งหมดแพงกว่ายอมเสียภาษีแบบง่ายๆเสียอีกครับ

อีกต้นทุนหนึ่งที่ผมมักจะแนะนำให้คิดอยู่เสมอ คือ ต้นทุนค่าเสียโอกาสและค่าเสียเวลา อย่าลืมนะครับว่า บางทีแล้วการวางแผนภาษีที่พยายามมากเกินไป อาจจะเป็นทางตันที่ทำให้เรานั้นเสียเวลาหารายได้เพิ่มก็ได้นะคร้าบบ

3. ลดภาษีง่ายๆ เพียงแค่มีคนจัดการ "เคลียร์ให้"

เรามักจะได้ยินคำว่า "รู้จักคนนู้นนั้นนี้" จากปาก "ใครสักคน" ที่บอกให้เรากล้าที่ประหยัดภาษีแบบผิดๆอยู่เสมอมา บางทีก็พูดสั้นๆแบบไม่ต้องเกรงใจใครว่า "ไม่มีปัญหา เดี๋ยวพี่เคลียร์ให้" แต่เชื่อไหมครับว่า พอมีปัญหาจริงๆขึ้นมา คนที่บอกว่าจะมาเคลียร์ให้เรานั้น มักจะหายหัวไปทุกทีเลยทีเดียว หรือไม่ก็ถ้าจะมีการเคลียร์ ก็ต้องมี "ค่าใช้จ่าย" บางอย่างที่เรียกร้องจากเราอยู่เสมอ

หรือต่อให้เค้าคนนั้นยอมเคลียร์ให้เราแบบฟรีๆ เราก็กลายเป็นหนี้บุญคุณเค้าคนนั้นไปเสียแล้ว ดีไม่ดีในอนาคตมีปัญหาอะไรเราก็ต้องเข้าไปช่วยแบบที่มีชนักติดหลัง แบบนี้ถ้ามากๆเข้าชีวิตก็พังได้เหมือนกันนะครับ เฮ้อ.. 

จากประสบการณ์ที่เห็นคนมา "เคลียร์ให้" พบว่าค่าใช้จ่ายในการเคลียร์บางครั้ง แพงกว่าภาษีที่ต้องจ่าย แถมยังต้องกลายเป็นหนี้บุญคุณ ทั้งๆที่เรามีทางเลือกในการทำถูกกฎหมายแบบง่ายๆ แต่ทำไมเราถึงไม่เลือกทำกันล่ะคร้าบบ

สุดท้ายนี้สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะฝากไว้เรื่องการประหยัดภาษี คือ การคิดประหยัดภาษีนั้นเป็นเรื่องดี แต่ถ้าคิดประหยัดภาษีแบบผิดๆ ระวังชีวิตจะเจอดีโดยพี่ๆสรรพากรนะครับ ^^