“รถ” คือ หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง ถึงแม้ต้องแลกกับเงินที่จ่ายไปเพื่อให้ได้มา แต่ใครหลายคนก็มองว่ามันช่างคุ้มค่าเสียเหลือเกิน

แต่.. ค่าใช้จ่ายสำหรับรถหนึ่งคัน ไม่ได้จบแค่ค่าน้ำมันเพียงอย่างเดียว มันยังมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา ซ่อมแซม ค่าต่อ พ.ร.บ. และค่าใช้จ่ายสำคัญที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงให้รถของเราอย่าง "ค่าประกันภัยรถยนต์" อีกด้วย

ทุกวันนี้ .. หลายๆ คนไม่เคยรู้เลยว่า รถของตัวเองนั้นต้องดูแลรักษาอย่างไร ส่วนหนึ่งมาจากเทคโนโลยีต่างๆ ที่เข้ามาช่วยเหลือในการจัดการ เช่น ระบบควบคุมการแจ้งเตือนต่างๆ ที่ติดตั้งมาให้ในรถยนต์ ซึ่งทำให้ชีวิตของเราสะดวกสบายขึ้น

แต่สิ่งหนึ่งที่เทคโนโลยีช่วยเราไม่ได้ คือ การป้องกันอุบัติเหตุ หรือ เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับรถของเราและตัวเรา ทำให้เราเลือกทำประกันภัยรถยนต์เพื่อลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียทางการเงินที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันหรือไม่ได้มีแผนสำรองไว้ แต่คำถามก็คือ ทุกวันนี้เราใส่ใจในการเลือกทำประกันภัยรถยนต์เพียงพอแล้วหรือยัง

ดังนั้นบทความนี้เลยอยากจะพูดถึงแนวคิดดีๆ ในการเลือกประกันภัยรถยนต์ว่า ทุกวันนี้เราได้เลือกทำประกันภัยให้รถสุดรักของเราอย่างเหมาะสมแล้วหรือยัง?

1. ความคุ้มค่าและคุ้มครองครอบคลุมครบถ้วน

คำว่าคุ้มค่า คือ ค่าเบี้ยที่เหมาะสมกับเงินที่เราจ่าย ค่าเบี้ยประกันภัยไป บางบริษัทเราสามารถจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยเริ่มต้นไม่ถึงหมื่นบาท หรือมีโปรโมชั่นที่สามารถเลือกผ่อนได้ 0% อนึ่งที่สำคัญคือต้องคุ้มครองได้ครอบคลุมครบทุกเรื่องที่เราต้องการ

2. ความน่าเชื่อถือและชื่อเสียงของบริษัทประกันภัย

การทำประกันภัยรถยนต์ทุกครั้งเราต้องดูว่าบริษัทประกันภัยนั้น มีความน่าเชื่อถือและชื่อเสียงอย่างไรบ้าง หรืออย่างน้อยต้องมีอะไรที่ทำให้เรามั่นใจได้ว่ารถของเราสามารถฝากให้เขาดูแลได้แน่นอน รวมถึงมีอู่ซ่อมรถในเครือตั้งอยู่ใกล้ที่พักอาศัย หรือสะดวกในการเดินทางไปในกรณีต้องการซ่อมหรือไม่

3. ความสะดวกสบาย

เริ่มตั้งแต่การให้คำปรึกษา ไปจนถึงการการติดต่อซื้อประกันภัย อำนวยความสะดวกต่างๆ  เคลมประกันภัย และการต่ออายุ ซึ่งเราต้องมองให้ครบทุกด้านที่เราต้องการเช่นกันครับ ยิ่งมีเคาน์เตอร์บริการสาขาใกล้บ้านยิ่งดี

ปัจจุบันการทำประกันภัยรถยนต์สามารถทำผ่านนายหน้าประกันภัยที่เรียกว่า โบรคเกอร์ ซึ่งมีหน้าที่ให้บริการทางด้านการแนะนำผลิตภัณฑ์และติดต่อกับบริษัทประกันภัยแทนลูกค้า โดยการทำผ่านโบรคเกอร์นั้นจะมีข้อดีตรงที่เราจะได้รับความสะดวกสบาย สิทธิประโยชน์บางอย่าง รวมถึงความคุ้มค่ามากกว่าทำประกันภัยผ่านบริษัทประกันภัยโดยตรง

โดยปกติแล้วโบรคเกอร์ที่ดี ควรจะเป็นนายหน้าที่มีกรมธรรม์ที่หลากหลายของบริษัทประกันภัยชั้นนำหลายๆแห่ง และทำหน้าที่แนะนำข้อดีและข้อด้อยของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ไว้ให้เราเปรียบเทียบได้ทั้งในเรื่องค่าเบี้ยประกันภัย ความคุ้มครอง และข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้อง โดยที่เราเองจะไม่ต้องไปเสียเวลาโทรถามบริษัทประกันภัยหลายๆ ที่ให้วุ่นวายอีกต่อไป

อย่าลืมนะครับว่าค่าใช้จ่ายประกันภัยรถยนต์นั้นถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่เราต้องพิจารณาให้ดีก่อนที่จะจ่าย เพราะถ้าหากเราเลือกทำประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสมและคุ้มค่า มันแปลว่าเราจะยิ่งเหลือเงินในกระเป๋ามากขึ้นเพื่อจับจ่ายใช้สอยหรือเก็บออมเพิ่มเติมได้มากขึ้นอีก จริงไหมครับ?

สุดท้ายนี้ขอให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ได้อย่างถูกใจ และถ้าหากสนใจซื้อหรือต่อประกันภัยรถยนต์ ก็สามารถติดต่อได้ที่เคาน์เตอร์บริการด้านการเงินและโบรคเกอร์ประกันภัย ที่เทสโก้ โลตัส 170 สาขาทั่วประเทศ หรือโทร. 1712 คร้าบบบ ครบ คุ้ม ใกล้ ต้องที่เทสโก้ โลตัส โบรคเกอร์ประกันภัย

Link website เพิ่มเติม http://goo.gl/cNZlHe