ในช่วงปลายปี หัวข้อฮอตฮิตที่พี่ต้าร์ต้องคุยเป็นประจำทุกๆ ปีก็คือ LTF และ RMF ปีนี้เป็นปีที่มีความผันผวนจากหลายๆ เหตุการณ์ ทำให้หลายๆ คนยิ่งมีคำถามว่า จะลงทุนในกองทุนรวมเพื่อประหยัดภาษี เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีงามอย่างไรดี

จากที่พี่ต้าร์ติดตามมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วในช่วงที่ตลาดผันผวนแบบนี้ กองทุนรวมที่ใช้เทคนิคการลงทุนแบบSelective Stock เป็นตัวเลือกหนึ่งที่ให้ผลตอบแทนที่ดีและต่อเนื่องด้วยครับ หลักการของการลงทุนของกองทุนรวมที่ใช้กลยุทธ์ในลักษณะนี้ เขาจะเข้าไปประเมินหุ้นกันเป็นรายตัวเลยทีเดียวและก็เลือกหุ้นที่มีศักยภาพดีเพียงไม่กี่ตัวเพื่อลงทุน โดยมีการกำหนดหุ้นที่น่าสนใจในแง่มุมต่างๆ เช่น

1. คุณภาพของธุรกิจ : ธุรกิจดีไหม ผู้บริหารเป็นอย่างไร มีความได้เปรียบในการแข่งขันอย่างไรบ้าง

2. ผลประกอบการธุรกิจ : บริษัทมีผลประกอบการที่เติบโตไหม ธีมการลงทุนน่าสนใจในระยะสั้นและระยะยาวมากขนาดไหน

และเมื่อทางกองทุนรวมได้มีการคัดสรรหุ้นที่มีคุณภาพดีแล้วเขาก็จะลงทุนตามกลยุทธ์ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวเพื่อสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนทุกท่านนะครับ

สำหรับกองทุนรวมที่ใช้กลยุทธ์นี้ของ บลจ.กสิกรไทยก็มีที่น่าสนใจอยู่ 2 กองทุนนะครับ ได้แก่ LTF กองทุน K 20 Select LTF (K20SLTF) ซึ่งถ้าเราไปดูข้อมูลจาก Morningstar® กองทุนให้ผลตอบแทนทั้งช่วง 3 ปี และ 1 ปี ย้อนหลังเป็นอันดับ1* และที่เพิ่มเติมมาใหม่เป็นดาวรุ่งในปีนี้คือ กองทุน K Mid Small Cap Equity RMF (KMSRMF) ที่มาแรงเป็นอันดับ1 ในช่วง 6 เดือนและ 1ปี  เหมาะที่สุดสำหรับคนที่รับความเสี่ยงได้สูงและคิดจะลงทุนระยะยาวเพื่อเกษียณ

กลยุทธ์การลงทุนของ K20SLTF คือเลือกหุ้นเด่น ศักยภาพสูง Selective มา 20 ตัว และมีการ Monitor & Review หุ้นในกองทุนรวมอย่างสม่ำเสมอ เท่าที่ได้สอบถามทางผู้จัดการกองทุนรวมมา เขาเล่าให้ฟังว่า พอร์ตส่วนใหญ่เป็นการลงทุนระยะยาว ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งลงทุนเพื่อจับจังหวะ ในการเข้าลงทุนและการขายทำกำไร  ด้วยวิธีนี้ทำให้กองทุนสามารถหาโอกาสทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังพิจารณาหุ้นที่เหมาะกับธีมการลงทุนในแต่ละช่วงด้วย โดยช่วงนี้กองทุนจะเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มอุปโภคบริโภคที่ยังมีความสามารถในการทำกำไรได้ดี  กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อน  และกลุ่มอาหารที่ผลประกอบการยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

จากปีที่แล้วที่ผมเคยให้ดูผลตอบแทนของกองทุนนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว เราลองมา Review ผลการดำเนินงานของกองทุนรวมนี้กัน ข้างล่างจะเป็นตารางผลการดำเนินงานของปีที่แล้วเทียบกับปีนี้กันดูนะครับว่ากลยุทธ์ Selective ของ K20SLTF นั้นผลการดำเนินงานเป็นอย่างไรบ้าง ทำไมถึงเป็นที่ 1 ของ Morningstar® ได้

ผลการดำเนินงานของกองทุน K20SLTF ของ บลจ.กสิกรไทย ที่พี่ต้าร์เอามาเปรียบเทียบกันระหว่างปีที่แล้วกับปีนี้ จากตารางข้างบนจะเห็นได้ว่าในปี 2558 นั้น SET ภาพรวมมีผลตอบแทนติดลบ แต่ K20SLTF นั้นติดลบน้อยกว่า ซึ่งพอเราดูในปีนี้เทียบเคียงกันจะเห็นว่าภาพรวมของตลาดนั้นมีผลตอบแทนอยู่ที่ 6.03% แต่ K20SLTF ผลตอบแทนสูงถึง 18.16% ซึ่งในส่วนของผลตอบแทนในระยะ 3 ปี และ 5 ปีนั้นเมื่อเทียบจากปีที่แล้วก็จะเห็นว่าทิศทางของผลตอบแทนนั้นทำได้ดีขึ้นตามลำดับด้วยเช่นกัน

ซึ่งตรงนี้บอกให้เราได้เห็นว่ากองทุนนี้ผู้จัดการกองทุนสามารถบริหารพอร์ตการลงทุนในระยะสั้นได้อย่างดีเยี่ยมและระยะยาวก็สามารถเลือกหุ้นได้ถูกต้อง (ทิศทางเป็นบวก ณ จุดนี้) ผลลัพธ์คือกองทุน K20SLTF ทำผลตอบแทนย้อนหลังได้เป็นอันดับหนึ่งทั้งช่วง 1 ปีและ 3 ปีที่ผ่านมา* และใครที่ชอบรับปันผล กองทุนนี้ยังมีนโยบายจ่ายเงินปันผลด้วย (ไม่เกิน 2 ครั้ง/ปี)

ส่วนคนที่สนใจการลงทุนใน ก็มีกองทุนน้องใหม่อีกตัวของ บลจ. กสิกรไทย ที่ใช้กลยุทธ์ในการบริหารคล้ายกับ K20SLTF คือ K Mid Small Cap Equity RMF (KMSRMF) ซึ่งเป็น RMF ที่มาแรง เพราะแค่จัดตั้งกองทุนมาเพียง 1 ปี ผลตอบแทนก็เป็นอันดับ 1 ทั้งช่วง 6 เดือนและ 1 ปีย้อนหลัง* ในกลุ่มหุ้น Small Cap และ Medium Cap (หุ้นขนาดเล็กและขนาดกลาง)

กองทุน KMSRMF เหมาะสมอย่างมากสำหรับคนที่วางแผนลงทุนระยะยาวและดีต่อชีวิตเกษียณ เพราะเน้นการลงทุนในหุ้น Small Cap และ Medium Cap  ซึ่งมีแนวโน้มให้ผลตอบแทนสูงกว่าหุ้นขนาดใหญ่ และยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก ก่อนที่จะโตไปเป็นหุ้นขนาดใหญ่ กองทุนนี้แม้พึ่งเปิดได้ปีเดียว แต่สร้างผลตอบแทนได้ถึง 27.35% ในขณะที่ SET คือ 6.03% นะครับ แต่จะมีข้อแตกต่างก็คือการเลือกหุ้นเล็กนั้นมีความเสี่ยงสูงกว่าหุ้นขนาดใหญ่โดยธรรมชาติอยู่แล้วโดยเฉพาะในระยะสั้นที่มีความผันผวนสูงมาก แต่การลงทุนใน RMF นั้นเราจะถือยาวไปจนถึงอายุ 55 ปี อยู่แล้ว จึงคิดว่ากองทุนจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ในระยะยาว และเหมาะกับการใช้จัดพอร์ตเพื่อวางแผนเกษียณครับ

คลิกเพื่อดูภาพใหญ่

ใครสนใจลงทุนกับกองทุน Style นี้ ลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมในรายละเอียดของกองทุนและความเสี่ยงได้ที่ลิงค์นี้นะครับ http://www.kasikornasset.com/Pages/LTF-RMF.aspx?utm_source=TarKawin&utm_campaign=LTF-RMF แต่ถ้าอยากลงทุนกับ 2 กองทุนนี้ก็ทำได้ง่ายมากครับ เริ่มต้นซื้อได้ตั้งแต่ 500 บาท ผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทยก็ได้ แถมช่องทางซื้อก็ง่ายมากครับ สามารถซื้อผ่านแอพพลิเคชั่นบนมือถือ K-Mobile Banking PLUS หรือบนเว็บไซต์ผ่าน K-Cyber Invest นะครับ ซื้อได้ทุกวันแต่ถ้าไปติดวันหยุดระบบจะสั่งซื้อให้ในเวลาทำการตามเงื่อนไขธนาคาร

*ข้อมูลจาก Morningstar® ณ วันที่ 28 ต.ค.59

บทความนี้เป็น Advertorial