ประกาศอีกครั้ง สำหรับหุ้นที่จะเข้ามาในตลาดฯ น้องใหม่อีกตัวหนึ่ง มีเรื่องราวมาเล่าให้ฟังนะครับ นั่นคือบริษัทที่ประกอบธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เรียกชื่อสั้นๆ ว่า “BCPG” ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บมจ. บางจากปิโตรเลียม หรือ BCP ที่หลายๆ คนอาจจะคุ้นหูและเป็นลูกค้าของปั๊มน้ำมันรายนี้ครับ โดย BCPG ทำธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ซึ่งเป็นพลังงานทางเลือกใหม่ที่กำลังอยู่ในกระแสทั้งในไทยและทั่วโลก มาดูกันนะครับว่ารายละเอียดของหุ้นน้องใหม่ตัวนี้เป็นอย่างไรบ้าง

ข้อมูลธุรกิจ

บริษัท บีซีพีจี ก่อตั้งเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2558 ด้วยทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท ถือหุ้นโดยบริษัทแม่ที่ชื่อว่า บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ร้อยละ 99.9 ตามแผนการปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน

ในส่วนของธุรกิจก็มีหลากหลายครับ โดยปัจจุบันรายได้หลักของทางบริษัทฯ มาจากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งมีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย ที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 130 เมกะวัตต์ โดยเป็นโครงการที่ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว 118 เมกะวัตต์ และโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา มีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญาอีก 12 เมกะวัตต์

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เข้าลงทุนในต่างประเทศ โดยมีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถือว่ามีโอกาสเติบโตมากนะครับ โดยมีกำลังการผลิตตามสัญญารวมถึง 194 เมกะวัตต์ โดยเป็นโครงการที่ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว 20 เมกะวัตต์ และยังมีโครงการในอนาคตที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 174 เมกะวัตต์เลยครับ ซึ่งจะทยอย COD อย่างต่อเนื่อง

ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนประเภทอื่นๆ ที่บริษัทฯ กำลังศึกษาและมีแผนสนใจจะเข้าลงทุน คือ โรงไฟฟ้าชีวมวล โรงไฟฟ้าพลังงานลม โรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ โรงไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะ และโรงไฟฟ้าจากพลังงานความร้อนใต้พิภพ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่สำคัญของโลกในอนาคต โดยเป้าหมายของ บีซีพีจี นั้นมุ่งลงทุนขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนทั่วโลกเป็น 1,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2563 ครับ

พอเราเห็นโครงการในอนาคตของ BCPG แล้ว แน่นอนว่าธุรกิจเองก็ต้องการเงินลงทุน โดยการนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในครั้งนี้จะระดมทุนเพื่อเป้าหมาย ดังนี้ครับ

  • ใช้เป็นเงินลงทุนขยายกิจการทั้งในไทยและต่างประเทศ
  • ใช้เป็นทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ

จุดเด่นของบริษัท

พลังงานหมุนเวียนเป็นพลังงานที่สะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งก็เป็นเทรนด์ใหม่ของโลกที่เน้นย้ำความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อม โดยไม่ก่อให้เกิดมลพิษในด้านต่างๆ อย่างพลังงานแสงอาทิตย์นั้นก็อยู่คู่โลกมานาน และเป็นพลังงานที่ใช้แล้วไม่มีวันหมด ต่างจากแหล่งพลังงานที่เราใช้กันอยู่ในทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นพลังงานถ่านหิน น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ หรือแม้แต่พลังงานนิวเคลียร์ ทั้งหมดนี้ต่างก็เป็นพลังงานที่ใช้แล้วหมดไป แถมบางประเภทนั้นก็ไม่ค่อยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย

ทั้งนี้ รัฐบาลไทยก็มีการสนับสนุนโครงการพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยตอนนี้แหล่งพลังงานในบ้านเราเองมีไม่เพียงพอ จึงต้องนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนที่ญี่ปุ่นยิ่งแล้วใหญ่เลยครับ หลังจากที่เกิดเหตุการณ์สึนามิในปี 2554 จนทำให้เกิดอุบัติเหตุในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ฟุกุชิมะ คนญี่ปุ่นก็ออกมารณรงค์ให้ใช้พลังงานหมุนเวียนแทนพลังงานนิวเคลียร์กันมากขึ้น จึงเป็นโอกาสในการเติบโตของธุรกิจพลังงานหมุนเวียนครับ

มาดูในเรื่องของโครงสร้างรายได้ของบริษัทฯ กันนะครับ อันนี้เป็นหัวใจหลักของนักลงทุนเลยทีเดียว จากข้อมูลที่มาจาก Filing ของทางบริษัทฯ รายได้เป็นดังนี้ครับ

รูปแบบของรายได้นั้น มาจากการจำหน่ายไฟฟ้าเกือบทั้งหมดครับ ที่เหลือจะมาจากการลงทุนและรายได้อื่นๆ แต่ในส่วนของรายได้จะแบ่งเป็นรายได้ตามอัตราค่าพลังงานไฟฟ้าพื้นฐานประมาณ 30% และจะมีรายได้จากส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้าในรูปแบบ Adder และรายได้ตามอัตรารับซื้อไฟฟ้าในรูปแบบ FiT อยู่ที่ประมาณ 70%

ซึ่งรายได้ในส่วนนี้จะเป็นการสนับสนุนจากทางรัฐบาล ที่ทำให้บริษัทฯ สามารถคืนทุนในการดำเนินกิจการได้เร็วขึ้นนะครับ แต่ก็อย่าลืมว่าเงื่อนไขในการสนับสนุนนั้นมีระยะเวลาจำกัดอยู่ อย่างระบบ Adder รัฐบาลจะสนับสนุนเป็นระยะเวลา 10 ปี หลังจากนั้นรายได้ในส่วนนี้จะหายไป

แต่หากเราเชื่อมั่นว่า ในระหว่างที่บริษัทฯ ยังได้สิทธิประโยชน์และสามารถนำผลกำไรจากรายได้ที่มากขึ้นนี้ไปลงทุนเพิ่ม เพื่อขยายกิจการตามพันธกิจที่ได้วางไว้ ก็ย่อมทำให้นักลงทุนได้ประโยชน์ในระยะยาว เพราะต้องอย่าลืมว่าธุรกิจพลังงานนั้นจะมีการทำสัญญาในการซื้อขายไว้ ทำให้รายได้ค่อนข้างแน่นอนและสม่ำเสมอ จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่ไม่ต้องการความผันผวนมากๆ ในการลงทุนครับ

ทั้งนี้ หากเรามองในภาพของรายได้รวมเทียบกับค่าใช้จ่ายต่างๆ และออกมาเป็นกำไร จะเห็นได้ว่า บริษัทฯ มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีนะครับ นั่นคือ ธุรกิจมีกำไร แต่ด้วยความที่ว่าบริษัทนี้ยังเป็นบริษัทน้องใหม่อยู่ กำไรที่ได้ก็จะมาจากการสนับสนุนรายได้ผ่าน Adder เป็นหลัก และมีโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ตามโครงการใน pipeline ที่จะทยอย COD ตั้งแต่ปี 2559 รวมถึงโอกาสในการลงทุนผ่านการพัฒนาโครงการใหม่ด้วยตนเอง และการเข้าซื้อกิจการ เราก็คงต้องติดตามนโยบายของผู้บริหารนะครับว่าจะมีการขยับขยายกิจการอย่างไรให้รายได้ของบริษัทฯ เติบโตได้อย่างดีเยี่ยม

หากได้ไปดูเพิ่มเติมในงบแสดงฐานะทางการเงินจะพบว่า ในแต่ละปีทรัพย์สินของบริษัทฯ ก็มีมากขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะทรัพย์สินประเภทที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ นั่นก็หมายความว่าในแต่ละปีธุรกิจก็มีการเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงงบกระแสเงินสดที่บ่งบอกว่าธุรกิจนี้มีการลงทุนใá