จากตอนที่ 1 ผมได้เล่าให้ฟังแล้วว่ากองทุนรวม LTF ที่เราลงทุนกันอยู่ก็มีหลากหลายกองให้เลือกนะครับ แต่ละกองก็จะมีแนวทางและ Style การบริหารที่ไม่เหมือนกันและที่เราไม่สามารถลืมได้ก็คือเราจะต้องดูผลตอบแทนระยะสั้นด้วยว่าเขาสามารถทำได้ดีขนาดไหน นอกเหนือจากผลตอบแทนระยะยาว

จากที่ผมเล่าให้ฟังโดยอ้างอิงจากข้อมูลของ Morningstar Thailand ว่าปีนี้มีกองทุนที่ผลประกอบการชนะเกณฑ์มาตรฐานอยู่ 23 กองจาก 53 กอง ซึ่งทามกลางตลาดที่ผันผวนแบบนี้กองที่เป็นแนว Selective เลือกลงทุนในหุ้นที่มีศักยภาพสูงก็มี K20SLTF หรือชื่อเต็มๆว่า กองทุนเปิดเค 20 ซีเล็คท์หุ้นระยะยาวปันผล กองนี้น่าจับตาอยู่นะครับ มาดูรายละเอียดกันว่าเป็นอย่างไร

ผลตอบแทนย้อนหลังของ K20SLTF ทั้งระยะสั้นและระยะยาว

ผลตอบแทนระยะยาว 3 - 5 ปี

จะเห็นได้ว่าทำได้ดีนะครับ เพราะดีกว่าเกณฑ์มาตรฐาน โดยในระยะ 5 ปี เกณฑ์มาตรฐานหรือ ดัชนีหุ้นไทย อยู่ที่ 7.22% กองนี้ทำได้ 8.14% ส่วนผลตอบแทนระยะ 3 ปี ทำได้ 4.27% ในขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.53%

ผลตอบแทนระยะสั้น 1 ปี และ YTD

จุดนี้น่าสนใจมากครับ อย่างที่ทุกคนทราบดีว่าในปีนี้ตลาดหุ้นมีความผันผวนสูงมากและหากใครลงทุนในหุ้นอยู่ก็จะรู้สึกว่าปีนี้ไม่ใช่ปีที่ดีเท่าไหร่ เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลงเอาแน่เอานอนไม่ได้ก็เพราะจากปัจจัยหลายๆอย่าง เศรษฐกิจในไทยและต่างประเทศก็ไม่ได้ดีนัก ดัชนีตลาดหุ้นไทยในรอบ 1 ปีจึงอยู่ที่ -10.89% พูดง่ายๆก็คือ ปีนี้ใครลงทุนมันเป็นขาลง ผลตอบแทนติดลบกันถึง 10% เลยนะครับ แต่ K20SLTF สามารถทำได้ดีกว่าตลาดคือ -1.30% เท่านั้น ถ้ามามองตั้งแต่ต้นปีแบบ YTD ตั้งแต่มกราคมจนถึง 30 ตุลาคม เกณฑ์มาตรฐานก็ยังติดลบอยู่ดีที่ -6.86% แต่กองทุนนี้ มีผลตอบแทน 0.42%

จากข้อมูลผลตอบแทนนี่ล่ะที่ทำให้กองทุน K20SLTF ติด Top 5 LTF ผลตอบแทนสูงสุดตั้งแต่ต้นปี จากการจัดอันดับของ Morningstar Thailand ในปีนี้

กองทุนนี้ลงทุนอะไรบ้าง?

มาดู 5 อันดับแรกของหุ้นที่กองทุนลงทุน ณ วันที่ 30 กันยายน 2558 ซึ่งทางผมไปเจาะลึกกับผู้จัดการกองทุนรวมมานะครับ

  • บริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979     10.78%
  • บริษัทกรุงเทพประกันชีวิต                8.08%
  • บริษัท อนันดาดีเวลลอปเม้นท์          7.99%
  • บริษัท ซีพีออล์                                 7.53%
  • บริษัทท่าอากาศยานไทย                 5.99% 

ถ้าใครติดตามเรื่องหุ้นอยู่แล้วก็คงจะได้เห็นภาพพอร์ตการลงทุนเลยนะครับว่าหุ้นตัวหลักๆที่ลงทุนอยู่เป็นอย่างไร มีทั้งตัวที่เป็นหุ้นที่เติบโตเรื่อยๆ บางตัวเป็นหุ้น Defensive ที่มีความแข็งแกร่งในสินค้าและบริการคนต้องใช้แม้ภาวะทางเศรษฐกิจไม่ดีก็ตาม เห็นหน้าตาแล้วก็พอเห็นบุคลิกลักษณะของตัวกองทุนว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรได้เลยนะครับ

ในเรื่องของวิธีการคัดเลือกหุ้นของทางกองทุนรวมเขาจะมองดูภาพทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยจะมี Investment Committee ช่วยกันคิดวิเคราะห์ ดูกันทั้งปัจจัยเชิงคุณภาพและปริมาณ ดังนี้ครับ

ปัจจัยเชิงคุณภาพ : ลักษณะธุรกิจ ปัจจัยสิ่งแวดล้อม ความได้เปรียบในการแข่งขัน และการบริหารงาน

ปัจจัยเชิงปริมาณ : มีการวิเคราะห์ทั้งแบบ Top-Down / Bottom-up เพื่อหาหุ้นที่น่าสนใจในธีมการลงทุนที่สอดคล้องกับเศรษฐกิจมหภาคช่วงนั้น มีการหาหุ้นที่มีการเปลี่ยนแปลงปัจจัยไปในเชิงบวก รวมถึงการมองหุ้นที่ undervalued มีเติบโตและสร้างผลตอบแทนได้ดี ทั้งหมดก็เพื่อกลั่นกรองออกมาเป็นหุ้นเพียง 20 ตัวที่ยังไปได้ดีแม้ว่าตลาดหุ้นจะผันผวนแค่ไหนก็ตาม กองนี้มีเงินปันผลด้วยนะครับ โดยตั้งแต่ตั้งกองทุนในปี 2550 จนถึงปีนี้มีการปันผลมาแล้ว 11 ครั้งรวม 4.19 บาท

แน่นอนว่าเขาก็มองว่าในการลงทุนช่วงปีหน้าก็ยังคงผันผวนอยู่ แนวโน้มของการลงทุนก็ยังไม่ได้ทำให้หุ้นไทยปรับตัวขึ้นสูงมาก ประกอบกับสหรัฐอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้เงินไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ รวมถึงบ้านเราด้วย กลยุทธ์ของการเลือกหุ้นแบบ Selective (คัดหุ้นที่เหมาะสมมาใส่พอร์ต) จึงน่าจะเป็นแนวทางการลงทุนที่ดีในช่วงจังหวะนี้นะครับ แต่อย่างไรก็ตามการเลือกหุ้นของกองทุนนี้ไม่ได้ยึดติดกับหุ้นตัวใดตัวหนึ่งนะครับ ทางผู้จัดการกองทุนก็จะพิจารณาการเลือกหุ้นที่แตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลาให้เหมาะสมกับตลาดในช่วงเวลานั้น และผลตอบแทน 1 ปี ก็ดีขึ้นมาเรื่อยๆระยะหนึ่งแล้วนะครับ

เจาะลึกกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับ K20SLTF ใครสนใจลงทุนกับกองทุน Style นี้ก็ลองสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้นะครับ เป็นกองทุน LTF สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ สินใจติดต่อที่ธนาคารกสิกรไทยใกล้บ้านทุกสาขาครับ

หมายเหตุ :

“ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง คู่มือภาษี ก่อนตัดสินใจลงทุน”

บทความนี้เป็นบทความ Advertorial