เป็นประจำทุกปีที่ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะมีการจัดงาน SET in the City และในปีนี้กระแสมาแรงมากในเรื่องของเทรนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งเราก็คุยกันมาตลอดนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเทรนผู้สูงอายุของสังคมไทยที่เราจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการสร้างความมั่งคั่งเพื่อใช้ในวัยเกษียณ เราจะลงทุนอย่างไรให้ประสบความสำเร็จโดยวางแผนการเงินตั้งแต่วันนี้อย่างไรได้บ้าง รวมถึงในยุนี้ มีเครื่องมือที่เป็นระบบ Digital ทำให้การลงทุนของพวกเราง่ายขึ้นอย่างไรได้บ้าง

ในงานนี้ก็ขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมงานนะครับและผมเองก็อยากจะให้ลองไปแวะชมบูธของ บล. ฟิลลิป กันดูนะเพราะนอกเหนือจากการเปิดบัญชีออมหุ้นที่ทุกคนคงจะรู้จักดี เขาก็ได้เตรียมเครื่องมือรองรับเทรนที่จะเกิดขึ้นมาบริการพวกเราภายใต้ Concept Leading the trend for Investment ผู้นำเทรนด์การลงทุนครบวงจร  มาดูกันว่ามีเทรนด์อะไรบ้าง

1. เทรนด์การออมผ่านการลงทุน

อย่างที่ผมเล่าให้ฟังเสมอๆ เลยนะว่า สมัยนี้แล้วการออมผ่านบัญชีเงินฝากนั้นอาจจะไม่สามารถทำให้เราเกิดความมั่งคั่งได้อีกต่อไปเพราะอะไรๆ ก็แพงขึ้นทุกวันๆ แถมขึ้นเร็วกว่าดอกเบี้ยในบัญชีเงินฝากธนาคาร การเก็บเงินไว้ใช้ในยามเกษียณก็ต้องวางแผนเพื่อนำเงินไปต่อยอดด้วยการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างๆ มากขึ้น หลายคนเปิดพอร์ตหุ้นแล้วเห็นราคาหุ้นต่อหน่วยที่อยากได้แพงมาก จะซื้อขั้นต่ำที่ 100 หุ้นก็ดูเหมือนต้องใช้เงินเยอะ จะซื้อรายเดือนเพื่อซื้อหุ้นราคา 200-300 บาท โดยมีการซื้อขั้นต่ำ 100 หุ้น ทุกเดือนก็อาจจะเก็บเงินไม่ไหว

บล. ฟิลลิป นั้นเป็นเจ้าแรกที่ให้บริการ “บัญชีออมหุ้นแบบรายเดือน” โดยที่เราสามารถนำเงินฝากไปออมหุ้นได้ง่ายๆโดยการกำหนดจำนวนเงินแทนการกำหนดจำนวนหุ้น ทุกๆ เดือนทางบริษัทก็จะทำการตัดบัญชีรายเดือนไปซื้อให้เรา เมื่อเราสะสมหุ้นไปเรื่อยๆ แบบประจำอย่างมีวินัย ในระยะยาวก็สามารถทำให้เกิดความมั่งคั่งในยามเกษียณได้ครับ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือน ฟรีแลนซ์ มีรายได้มาก รายได้น้อย ก็เริ่มออมหุ้นได้โดยเริ่มแค่เพียง 1,000 บาทเท่านั้น ทีนี้จะซื้อหุ้นราคา 200-300 บาทสะสมทีละนิดๆ ก็เป็นเรื่องที่ไม่ยากอีกต่อไป

นอกจากนี้ถ้าหากเราอยากสะสมกองทุนรวมก็ทำได้เช่นกันนะครับ ทาง บล. ฟิลลิป ก็มีบริการ “ออมกองทุนรายเดือน” ด้วยเช่นกัน โดยเราสามารถเริ่มลงทุนได้ด้วยเงินเริ่มต้นเพียง 3,000 บาท มีกองทุนรวมให้เลือกมากมายหลาย บลจ. ซึ่งกองทุนที่ทาง บล. ฟิลลิป เลือกมานั้นมีนักวิเคราะห์คัดสรรมาให้แล้วว่าเหมาะแก่การลงทุนในระยะยาวครับ

รูป : การจะลงทุนแล้วไปสู่เงินเป้าหมายนั้นขึ้นอยู่กับการเลือกทรัพย์สินที่เราลงทุน หากเราลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง บนความเสี่ยงที่เรายอมรับได้ ก็มีโอกาสไปถึงเป้าหมายเร็วขึ้นนะครับ ลองมาเปลี่ยนเงินฝากที่ออมไว้ในแต่ละเดือนเป็นการออมในหุ้นหรือกองทุนรวมกันนะครับ

2. เทรนด์ DIY Investment

ผมบอกได้เลยว่าเครื่องมือของ บล. ฟิลลิป มีหลายแบบมากๆและไม่ธรรมดาทั้งในการลงทุนหุ้นและกองทุนรวม มาดูเครื่องมือการลงทุนในแต่ละประเภทกันเลยนะครับ

DIY ในหุ้น

ขอบอกเลยครับว่า บล. ฟิลลิป เป็นผู้นำของระบบเทรดในเมืองไทยเลยเชียวนะ ไม่ได้มีแค่ระบบ POEMS เท่านั้น แต่นักลงทุนสามารถเลือก Trading Platform ได้เอง ไม่ว่าจะเป็นระบบ Streaming และปัจจุบันก็มีแอพพลิชั่น Trade Alliances เป็นแอพที่มีข้อมูลหุ้นรายตัวครบครันมาก น่าลองนำไปใช้ในการวิเคราะห์ซื้อขายหุ้นกันนะครับ

รูปข้างล่างคือ POEMS 2.0 เป็น Platform ที่เราสามารถจัดการเครื่องมือการลงทุนของเราได้เองเลย กำหนด Menu ได้ว่าอยากให้มีอะไรอันนี้เป็นตัวอย่างหน้าจอที่ใช้กัน และสามารถสับเปลี่ยนหน้าจอให้อยู่ในรูปแบบที่เราต้องการได้นะครับ

กรณีที่เราต้องการใช้ระบบ Streaming ในการเทรดหุ้นก็สามารถนำ Account ของทาง บล. ฟิลลิป ไปลงทะเบียนในระบบได้เหมือนกันนะครับ เมื่อลงทะเบียนตามขั้นตอนแล้วก็จะสามารถใช้ระบบในการซื้อขายหุ้นได้ทั้งผ่านคอมพิวเตอร์และหน้าจอมือถือ

DIY ในกองทุนรวม

ปกติเวลาเราจะเปิดบัญชีกองทุนรวมนั้น เมื่อเราเลือกกองทุนที่ต้องการแล้วก็จะติดต่อไปยังธนาคารหรือคนขายกองทุนใช่ไหมครับ ก่อนหน้านี้เวลาผมจะซื้อกองทุนซัก 3 กอง ก็ต้องไปเปิดบัญชี 3 ครั้ง ยิ่งถ้าเป็นกองที่จัดการโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนคนละที่เนี่ย ผมต้องเดินไปเปิด 3 ที่เลย สมุดบัญชีกองทุนรวมก็เลยเต็มบ้านไปหมด ก็เลยพยายามมองหาอะไรที่เป็นเรื่องง่าย พยายามหาว่า “เปิดบัญชีเดียวซื้อกองทุนได้หลายๆที่มีไหม?”

มีสิ! เพราะยุคนี้คือยุค Digital แล้ว บล. ฟิลลิป ก็มีเครื่องมือการลงทุนอันหนึ่งที่น่าสนใจคือ Phillip Fund SuperMart เราสามารถซื้อกองทุนรวมด้วยการเปิดบัญชีเพียงครั้งเดียวและซื้อกองทุนที่ให้บริการได้มากกว่า 20 บลจ. ผ่าน Mobile Application  ซึ่งระบบรองรับทั้ง iOS และ Android เลยนะครับ อยากซื้อของที่ไหนก็ซื้อผ่านที่นี่ได้อย่างสะดวกเพียงแค่คลิ๊กหน้าจอเท่านั้น อันนี้จะเป็นตัวอย่างหน้าจอของ Phillip Fund SuperMart นะครับ ว่าสามารถเลือกกองทุนได้จากหลากหลาย บลจ. เลย ล่าสุดแอพนี้รองรับการส่งคำสั่งซื้อ LTF-RMF ได้แล้ว ขณะนี้สามารถซื้อได้ 2 บลจ. คือ บลจ. ฟิลลิป และ บลจ. กรุงศรี ซึ่งทาง บล.ฟิลลิป กระซิบมาว่า จะมีตามมาอีกหลาย บลจ. เร็วๆ นี้

3. เทรนด์การประหยัดภาษี

ในยุคข้อมูลข่าวสารที่มากขึ้นพวกเราเองก็ทราบกันนะครับว่า เราสามารถเปลี่ยนภาษีเป็นเงินออมได้ วิธีการที่ยอดฮิตอย่างหนึ่งก็คือการลงทุนใน LTF และ RMF โดยเฉพาะในช่วงปลายปีนี้ก็เป็นฤดูที่เราต้องรีบซื้อกันแล้วนะครับ ช่วงนี้ก็อย่าลืมคำนวณรายได้ของเราและดูว่าจะลดหย่อนกันมากน้อยแค่ไหน เราสามารถลดหย่อนโดยซื้อ LTF และ RMF ได้อย่างละ 15% ของรายได้เลยนะครับ อย่าลืมใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษีที่ได้ทั้งประโยชน์