อยู่ๆ ผมก็มองย้อนอดีตไปในสมัยก่อนว่าเขาลงทุนกันอย่างไรแล้วมาเปรียบเทียบกับตอนนี้ ผมว่าหลายอย่างมันมีความเปลี่ยนแปลงไปเยอะเลยนะครับ จากเดิมโน้นใครที่จะลงทุนในตลาดหลักทรัพย์นั้นอาจจะต้องไปเคาะซื้อขายหุ้นกันที่ตลาดหลักทรัพย์เลย และการวิเคราะห์หุ้นหรือกองทุนรวมทั้งหลายข้อมูลก็มีน้อยกว่าสมัยนี้ สมัยเริ่มแรกผมก็เปิดแค่ Settrade กับ Set.or.th เท่านั้นนะครับ แต่ตอนนี้เครื่องมือเยอะมากด้วย ผมก็เลยอยากจะมานำเสนอว่าเดี๋ยวนี้ยุค Thailand 4.0 เราสามารถลงทุนอย่างไรไม่ให้ตกเทรนกันได้บ้าง

1. ศึกษาผ่านระบบออนไลน์และมือถือ

เมื่อก่อนถ้าเราจะศึกษาหุ้นกันซักทีนึง ผมก็จะเดินเข้าไปยังร้านหนังสือเพื่อดูว่าเล่มไหนที่น่าสนใจ น่าอ่านและทำให้เราเข้าใจในเรื่องการลงทุนได้ตามสไตล์ของเรา สมัยนี้พอเทคโนโลยีมันเปลี่ยนและมีผู้แนะนำการลงทุนมากขึ้น เราสามารถอ่านได้ทั้งหนังสือ eBook  เวปไซต์ต่างๆ รวมไปถึงการเรียนคอร์สสัมมนาออนไลน์ผ่านทาง Youtube ติดตามนักลงทุนหลายๆที่ Live ให้ความรู้ผ่านทาง Facebook และติดตามกูรูผ่านทาง LINE ได้เช่นกันครับ

วิธีการที่ผมจะเลือกศึกษาก็คือ ใครที่เป็นต้นแบบของการลงทุนที่น่าสนใจ หรือ หน่วยงานไหนที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนและคอยอัพเดทไว้บ้าง เราก็ไปกดติดตามเขากันตามช่องทางที่เขานำเสนอครับ เมื่อมี update ใหม่ๆ ก็จะไม่พลาดข่าวสารและข้อแนะนำ เทคนิค ข้อมูลการสอนในทุกโอกาสครับ ที่สำคัญก็คือเดี๋ยวนี้เรียนรู้ที่ไหนก็ได้แล้วผ่านทางมือถือเครื่องเดียว สะดวกสบายมาก

2. ใช้เครื่องมือวิเคราะห์การลงทุนได้ผ่าน Application

เชื่อไหมครับว่าเมื่อก่อนเราอยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับหุ้น ก็มีแค่ทางตลาดหลักทรัพย์นี่ล่ะที่เราจะได้ข้อมูลมาอย่างง่ายที่สุด เราก็เอาข้อมูลเหล่านั้นมาเขียนกระดาษบ้าง ใส่ Excel บ้าง เพื่อดูว่าเราจะตัดสินใจในการลงทุนอย่างไรต่อ แต่สมัยนี้ผมเห็นมี Application ออกมาให้ใช้เยอะแยะมากมายเลยนะครับ

ก็เคยลองเล่นอยู่หลายเจ้าพบว่า เขาก็เอาบรรดาข้อมูลเข้ามาไว้ทางหน้าจอมือถือให้เรา ซึ่งเราสามารถสร้างเงื่อนไขต่างๆ ที่จะกรองหุ้นในแบบลักษณะที่เราต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็นในมุมพื้นฐาน ที่เราสามารถค้นหุ้นที่เติบโตต่อเนื่อง กำไรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมูลค่าอยู่ในระดับที่เหมาะสม หรือจะเป็นในรูปแบบเทคนิคอลที่มีเส้น Indicator แสดงให้ดูว่าแนวโน้มต่างๆ เป็นอย่างไรบ้าง นอกจากนี้ยังมีพวกระบบเตือน Notification และแจ้งข่าวสารให้เราด้วยนะครับ พอลงทุนเรียบร้อยแล้วก็มานั่งติดตามกันทางระบบกันเลยครับ

ที่สำคัญก็คือในอนาคตของยุค Thailand 4.0 นั้น ก็คงมีการพัฒนาเป็นระบบ Robo Advisor, Machine Learning และใช้ AI ในการให้ข้อแนะนำกับนักลงทุนจากที่ระบบได้ศึกษาตลาดและพฤติกรรมของตัวเราที่เป็นนักลงทุนด้วยนะครับ ซึ่งการมีเทคโนโลยีเข้ามาก็จะทำให้เราลงทุนได้ง่ายขึ้นมาก แต่สิ่งที่สำคัญก็คือเราจะต้องเข้าใจนิยามต่างๆของเครื่องมือที่เรากำลังใช้ง่ายด้วยนะครับ ไม่งั้นอาจจะผิดพลาดได้

วิธีการของผมที่จะใช้เครื่องมือก็คือ ลองสำรวจตัวเองก่อนว่าเป็นนักลงทุน Style ไหน เครื่องมืออะไรที่มีรูปแบบการใช้งานที่เหมาะสมกับเราบ้าง และมี Feature อะไรให้ลองศึกษาเพิ่มเติมได้ ก็ลองโหลดมาใช้ดูนะครับ พอมีเครื่องมือที่ช่วยเราแล้วก็ทำให้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจที่ง่ายขึ้นด้วย

3. ลงทุนง่ายๆ จากผ่านรูปแบบอัตโนมัติและสัมผัสเพียงปลายนิ้ว

อย่างที่เกริ่นในตอนต้นนะครับว่าเมื่อก่อนการศึกหุ้นนั้นเริ่มจากการเคาะกระดาน แต่สมัยต่อมาก็เริ่มซื้อขายผ่านทางเวปไซต์ได้และปัจจุบันนี้ทุกอย่างก็สามารถกดดูได้ผ่านทาง Application มือถือ คนในยุค Thailand 4.0 นั้นก็สามารถซื้อขายหุ้นกันง่ายขึ้น เพียงแค่เปิดมือถือก็จิ้มซื้อขายได้ทันทีครับ ถ้าเปรียบเทียบค่าคอมมิชชั่นแล้วก็ถูกกว่าการโทรหามาร์เก็ตติ้งด้วย หรือแม้แต่การซื้อกองทุนเองก็ซื้อผ่านระบบกันแล้ว ไม่ต้องไปต่อคิวตามสาขาธนาคาร

และถ้าหากเราเป็นนักลงทุนระยะยาว เดี๋ยวนี้ก็มีระบบการซื้อหุ้นแบบ DCA บริการหลายรูปแบบเลยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นผ่านระบบ Streaming การใช้บัญชีออมหุ้น หรือการตั้งค่ากันไปเลยว่าจะให้มีการซื้อกองทุนรวมแบบอัตโนมัติด้วยเป้าหมายที่เราต้องการอย่างไร

วิธีการของผมในการลงทุนคือ ผมจะตั้งเป้าหมายในการลงทุนก่อนนะครับเมื่อคัดเลือกหุ้นหรือกองทุนรวมที่ต้องการได้ จะซื้อแบบ DCA ไปเลยผ่านระบบ ซึ่งเราสามารถเข้ามาดูได้ตลอดเวลาว่าหุ้นที่ลงทุนในระยะยาวเป็นอย่างไร และผมก็จะเปิดบัญชีเพื่อซื้อขายหุ้นในจังหวะดีๆ ไว้ด้วย พอถึงเวลาที่เหมาะสมก็แค่หยิบมือถือเข้ามา Login และซื้อขายหลักทรัพย์ตามที่ต้องการได้

จะเห็นได้ว่าสมัยนี้เราสามารถลงทุนได้ง่ายขึ้นตามยุค Thailand 4.0 ตั้งแต่การใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการศึกษาเรื่องการลงทุน การใช้เครื่องมือเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อขาย รวมถึงมีเครื่องมือที่จะซื้อขายได้ตลอดเวลาทำการของตลาดแค่เรามีมือถือเครื่องเดียวครับ อย่าลืมว่ามาถึงยุคนี้แล้วเราเองในฐานะนักลงทุนก็ควรจะนำสิ่งต่างๆ ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้เพื่อนำมาใช้สร้าง Lifestyle ในการลงทุนที่ง่ายขึ้นครับ

TarKawin