ในช่วงนี้มีคนสนใจเรื่องการออมหุ้นมากเลยนะครับ วิธีคิดของการออมหุ้นคือเราจะต้องเลือกหุ้นที่มีผลประกอบการดี และมีแนวโน้มการเติบโตในอนาคต รวมถึงมีความได้เปรียบในการแข่งขันในธุรกิจของตัวเอง ซึ่งเป้าหมายในการออมหุ้นของเราคือการเปลี่ยนเงินออมที่เราฝากไว้ในธนาคาร มาจัดพอร์ตการลงทุนในหุ้นเพื่อขยายโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่มากขึ้นในอนาคต ในปัจจุบันการออมหุ้นนั้นสามารถทำได้ 2 แบบคือการใช้บริการบัญชีออมหุ้นในบริษัทหลักทรัพย์ที่ให้บริการและการซื้อด้วยตัวเอง

การซื้อผ่านบัญชีออมหุ้น

บัญชีออมหุ้นเป็นบัญชีที่ให้บริการเพียงแค่บางบริษัทหลักทรัพย์เท่านั้น โดยเรามีหน้าที่ในการกำหนดการลงทุนตามเงื่อนไขที่กำหนดด้วยตัวเองได้แก่

  • หุ้นที่จะลงทุน ทางบริษัทหลักทรัพย์จะคัดกรองหุ้นบางตัวที่มีสภาพคล่องสูงในบริการ
  • กำหนดเงินที่ใช้ลงทุนในแต่ละเดือน เช่น 1,000  บาท 5,000 บาท ตามเงื่อนไขการให้บริการ ทางโบรกเกอร์จะนำหุ้นมาเข้าพอร์ตตามจำนวนหุ้นที่ได้มาตามจริง เช่น 125 หุ้น 32 หุ้น
  • กำหนดวันที่จะซื้อหุ้นในแต่ละเดือน ตามข้อกำหนดของ บล. เช่นทุกวันที่ 5 ของแต่ละเดือน

เมื่อเราเปิดบัญชีออมหุ้นแล้ว ทางบริษัทหลักทรัพย์จะดำเนินการตามข้อกำหนด โดยการนำเงินของเราไปซื้อหุ้นทุกเดือนตามเงื่อนไขของวันและเวลา เป็นการสะสมหุ้นไปเรื่อยๆอย่างอัตโนมัติ โดยที่เราไม่ต้องซื้อเองครับ

การซื้อด้วยตัวเอง

ปกติแล้วเวลาเราซื้อหุ้นสามารถซื้อผ่านระบบ Online หรือโทรศัพท์เพื่อซื้อผ่าน Marketing ซึ่งจะมีข้อแตกต่างในการซื้อหุ้นคือ

  • เราสามารถเลือกหุ้นอะไรก็ได้ตามที่เราต้องการ
  • การซื้อจะเป็นลักษณะซื้อที่ละ 100 หุ้นและเพิ่มขึ้นในหลักร้อย เช่น 200 300 ไปเรื่อยๆ  (การซื้อลักษณะนี้จะไม่มีการซื้อเศษหุ้นในหลักหน่วยและหลักสิบเหมือนบัญชีออมหุ้นนะครับ)
  • กำหนดการลงทุนด้วยตัวเอง เราจะต้องสร้างวินัยด้วยตัวเองในการซื้อหุ้น

การซื้อด้วยตัวเองนั้นต้องมีวินัยสูงมากกว่าการซื้อผ่านระบบ เพราะบางครั้งเราอาจจะลืมซื้อหุ้นได้ และหลายๆ ครั้งต้องใช้ความพยายามที่หลีกหนีอารมณ์ของตลาด เพราะหลายคนเห็นหุ้นขึ้นก็ไม่กล้าซื้อเพราะกลัวจะซื้อแพง และเมื่อหุ้นลงต่ำก็อาจจะไม่กล้าซื้อเพราะกลัวราคาจะลงไปอีก พอมีอารมณ์เข้ามาวุ่นวายในการซื้อหุ้นก็ทำให้ซื้อไม่ได้สักที

พอจะเห็นภาพคร่าวๆ ในเรื่องความแตกต่างของบัญชีออมหุ้นและการซื้อหุ้นด้วยตัวเองไหมครับ ในตอนต่อไปเดี๋ยวผมจะมาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับ “ข้อจำกัดในการซื้อด้วยตัวเองและการใช้บัญชีออมหุ้น” นะครับว่าอันไหนเหมาะสมในการวางแผนการเงินและอันไหนที่ทำให้เราสะดวกสบายในการซื้อขายมากกว่ากัน