สวัสดีครับ กลับมาพบกับพรี่หนอม TAXBugnoms เจ้าเก่าเจ้าเดิม กับหน้าที่เพิ่มเติมในการสรุปประเด็นเด็ดเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากรายการ “กองทุนไหนดี ? Weekly” รายการที่จะทำให้คุณรู้ว่ากองทุนไหนดี กองทุนไหนเด่น เพื่อให้เลือกกองทุนได้เหมาะสำหรับตัวคุณมากที่สุดครับผม

สำหรับกองทุนไหนดี ? ตอนที่ 8 นี้ เป็นการรีวิวกองทุนที่มีถึง 3 ข้อดีด้วยกันครับ ตั้งแต่ผลตอบแทนดี ๆ ติด Top อยู่บ่อย ๆ มีค่าธรรมเนียมถูกมาก ๆ แถมยังมีสไตล์การลงทุนปรับหุ้นไว เก็งกำไรเก่ง นั่นคือ กองทุน KTEF นั่นเองครับ แต่ม แตม แต๊มมมมมมม

กองทุน KTEF หรือ กองทุนเปิดกรุงไทย สมาร์ท อิควิตี้ ฟันด์ นั้น ต้องบอกเลยว่ามีความน่าสนใจ อย่างแรกคือผลตอบแทนย้อนหลังค่อนข้างดีครับ จะเห็นว่าอยู่ในเปอร์เซ็นไทล์ที่ 5 ถือว่ามีผลตอบแทนอยู่ในระดับต้น ๆ ตลอดทั้ง 1 ปี 3 ปี และ 5 ปีครับ

แต่เดี๋ยวก่อนนนน… ในทางกลับกัน ความเสี่ยงของกองทุนนี้ก็ไม่ธรรมดาเหมือนกันครับ ถือว่าอยู่ในช่วงเปอร์เซ็นไทล์ล่าง ๆ เหมือนกัน ซึ่งแปลว่าเหมาะกับคนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ค่อนข้างสูงสักหน่อยครับ

โดยสาเหตุที่กองทุนนี้มีความเสี่ยงค่อนข้างสูงนั้น เกิดจาก อัตราการเปลี่ยนหุ้น (Portfolio Turnover Ratio) อยู่ที่ 923% ครับ ซึ่งถือว่ามีการเปลี่ยนและหมุนเวียนหุ้นค่อนข้างมาก (ซื้อ ๆ - ขาย ๆ กันแบบรัว ๆ กันเลยทีเดียว) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วหุ้นที่เลือกในการซื้อขายนั้นจะเป็นหุ้นขนาดใหญ่ ซึ่งมีสภาพคล่องเยอะ ทำให้สามารถจับจังหวะทำกำไรได้เรื่อย ๆ ครับ ซึ่งประเด็นตรงนี้ถือว่าเป็นการวัดความสามารถของผู้จัดการกองทุนด้วยนะครับ ดังนั้นคนที่ลงทุนในกองทุนนี้ต้องเชื่อฝีมือของผู้จัดการกองทุนเรียกว่าฝากให้เขาด้วยดูแลกันไป เพราะทุกอย่างอยู่ที่การตัดสินใจของผู้จัดการแต่เพียงผู้เดียวครับ

และอีกเรื่องที่น่าสนใจของกองทุนนี้อีกอย่างตามที่กล่าวไปแล้ว นั่นคือค่าธรรมเนียมที่ค่อนข้างต่ำครับ (อยู่ที่ 1.37%) และมีจำนวนเงินขั้นต่ำในการซื้ออยู่ที่ 1,000 บาทเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจไม่แพ้กันครับ

สรุปอีกครั้งว่ากองทุนนี้เหมาะกับ คนที่ต้องการผลตอบแทนสูง รับความเสี่ยงได้มาก (เชื่อผู้จัดการกองทุน) และต้องการกองทุนที่มีค่าธรรมเนียมต่ำครับผม

ลงทุนเท่าๆกันทุกงวดแบบ DCA VS ลงทุนก้อนใหญ่ก้อนเดียว
แบบไหนดีกว่ากันนะ

สำหรับช่วงความรู้นั้น เราอยู่กับคำถามโลกแตกที่ถามเข้ามากันเป็นประจำครับว่า ควรจะลงทุนเท่าๆกันทุกงวด (DCA) หรือ ลงทุนก้อนใหญ่ก้อนเดียว แบบไหนดีกว่ากัน ซึ่งประเด็นที่ต้องพิจารณานั้น อยากให้ดูตามนี้ครับ

ถ้าพูดตามหลักการของการลงทุนนั้น การลงทุนก้อนเดียวให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดครับ แต่มันขึ้นอยู่กับการลงทุนที่ถูกเวลา (Timing) ด้วยเช่นเดียวกันครับ ดังนั้นในโลกความจริงมันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากที่จะเลือกลงทุนได้ถูกจังหวะเวลา (ถ้าเลือกได้คงไม่มาเขียนบทความให้่อ่านกันแบบนี้แล้วล่ะครับ ฮ่า ๆ)

ส่วนการลงทุนแบบ DCA เท่า ๆ กันทุกงวด สิ่งที่ต้องดูคือสินทรัพย์ที่เราลงทุนนั้นมีแนวโน้มที่จะเติบโตหรือไม่ ถ้าหากไม่มีโอกาสที่จะเติบโตหรือมีความผันผวน บางทีวิธีการ DCA นั้นอาจจะไม่เหมาะสมเช่นเดียวกันครับ

สิ่งที่ต้องดูคือ เป้าหมายการลงทุนประกอบกับความสามารถในการจัดการเงินของเราครับ เราต้องดูด้วยครับว่า เงินที่เรามีนั้นเป็นแบบไหน

ถ้าหากบางคนมีเงินก้อนใหญ่ การวางแผนลงทุนแบบก้อนใหญ่และใช้การจัดพอร์ทเข้าช่วยอาจจะเป็นคำตอบที่เหมาะสมกว่า หรือบางคนนั้นมีกระแสเงินสดเข้ามาเรื่อย ๆ และวางแผนเป้าหมายระยะยาว อาจจะต้องใช้การวางแผนลงทุนแบบ DCA เข้ามาช่วยแทนครับ

สรุปตรงนี้อีกทีครับว่า คำตอบที่ถูกต้องนั้นไม่มีครับ (อ้าวว) เพราะสิ่งที่เราต้องพิจารณานั้น มีปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย ทั้งเรื่องของจังหวะเวลา และ สินทรัพย์ที่เราลงทุน ว่ามันเป็นแบบไหน รวมถึงพิจารณาเรื่องของเป้าหมายในการลงทุนของเราไปพร้อม ๆ กันครับ

เห็นไหมครับว่าจริง ๆ แล้วการลงทุนนั้นไม่มีผิดและถูกครับ แต่เราต้องมั่นใจว่าเราลงทุนเพื่ออะไร ตอบคำถามตัวเองให้ได้ก่อนตัดสินใจจะลงทุนคือเรื่องที่ดีที่สุดครับ

สำหรับใครที่พลาดรายการกองทุนไหนดีไป สามารถดูคลิปรายการย้อนหลัง ได้ที่นี่ครับ

https://www.youtube.com/watch?v=KPtBt4oi2cM&t=25s

ทั้งหมดนี้คือที่อยากฝากไว้ในตอนนี้ครับผม เอาล่ะครับ สำหรับตอนต่อไปจะเป็นเรื่องอะไรนั้น รอติดตามชมกันกับ “รายการกองทุนไหนดี ?” ในวันอังคารที่ 2 พฤษภาคม 2560 เวลาหนึ่งทุ่มตรงเหมือนเช่นเคยคร้าบบบบ

สุดท้ายเหมือนเคยครับ ฝากกันไว้สักนิด อย่าลืมกดติดตามพวกเราได้ที่เพจ aomMONEY หรือกดเข้าร่วมกรุ๊ป กองทุนไหนดี ? ห้องแลกเปลี่ยนประสบการณ์เรื่องกองทุนรวมจาก aomMONEY เพื่อไม่ให้พลาดทุกบทความและความรู้จากพวกเรานะครับ