สวัสดีครับ กลับมาพบกับพรี่หนอม TAXBugnoms เจ้าเก่าเจ้าเดิม กับหน้าที่เพิ่มเติม กับประเด็นเด็ดจากรายการ “กองทุนไหนดี ? Weekly” รายการที่จะทำให้คุณรู้ว่ากองทุนไหนดี กองทุนไหนเด่น เพื่อให้เลือกกองทุนได้เหมาะสำหรับตัวคุณมากที่สุดครับผม

สำหรับรายการกองทุนไหนดี ? ตอนที่ 6 นี้ เราจะมาพูดคุยกันในเรื่องลงทุนในกองทุน Passive Fund ว่ามันดีอย่างไร เหมาะกับใคร และคุ้มค่ากับการลงทุนไหมครับผม

ก่อนอื่นเรามารู้จักกันก่อนครับว่า สำหรับประเภทกองทุนรวมหุ้นนั้น จะมีอยู่  2 ประเภท นั่นคือกองทุนแบบ Active และ Passive ซึ่งความแตกต่างกันเป็นดังนี้ครับ

  • กองทุนรวมแบบ Active เป็นกองทุนรวมที่ผู้จัดการพยายามจะทำผลตอบแทนให้ชนะค่ามาตรฐาน เช่น SET TR และยังต้องเอาชนะคู่แข่งคือกองทุนประเภทเดียวกันในตลาดอีกด้วย
  • กองทุนรวมแบบ Passive เป็นกองทุนรวมที่ไม่ได้อาศัยการบริหารจัดการของผู้จัดการกองทุน แต่เน้นผลตอบแทนจากการลงทุนให้ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิงมากที่สุด เช่น ดัชนี SET50 หรือดัชนี SET100

โดยกองทุน Passive จะมีความเชื่อว่าในระยะยาวเราจะสามารถหากองทุนที่เอาชนะผลตอบแทนของตลาดได้ค่อนข้างยาก ดังนั้นทางเลือกที่ดีที่สุดคือการลงทุนโดยให้ผลตอบแทนเป็นไปตามตลาดนั่นเองครับ

ข้อดีที่ชัดเจนของกองทุน Passive คือ มีค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่ากองทุนแบบ Active ตามแนวคิดที่ว่าไม่ต้องใช้ความสามารถของผู้จัดการกองทุนในการบริหารนั่นเองครับ โดยค่าธรรมเนียมจะอยู่ที่ประมาณนี้ครับ

อีกเรื่องหนึ่งคือการวัดผลการดำเนินงานของกองทุนครับ ส่วนของกองทุน Active จะวัดผลจากค่าต่างๆ ว่าดีหรือไม่ ทั้ง Sharp Ration, Information Ratio และ Alpha ซึ่งถ้าให้จำง่ายๆคือค่าเหล่านี้ยิ่งมากจะยิ่งแสดงให้เห็นว่าเป็นกองทุน Active ที่ดีครับ (รายละเอียดแต่ละอันนั้นฟังในวีดีโอดีกว่าครับ)

ในขณะที่กองทุน Passive จะวัดผลจากการเป็นไปตามตลาดครับ ค่า Tracking Error จะบอกว่าผลตอบแทนของกองนั้นๆ เป็นไปตามผลตอบแทนของตลาดหรือไม่ มีการเบี่ยงเบนจากตลาดกี่ % ดังนั้นกอง Passive ที่ดีควรจะมีค่า Tracking Error น้อยๆครับ

โดยหลักการการดู Tracking Error นั้นมันดูง่ายๆ จากค่าธรรมเนียมก็ได้ครับ เพราะค่าธรรมเนียมยิ่งมากจะทำให้ค่าผลตอบแทนที่เกิดขึ้นนั้นเบียงเบนมากกว่าครับ ดังนั้นเลือกกองทุน Passive จากค่าธรรมเนียมน้อยสุดน่าจะดีที่สุดนั่นเองครับ

ซึ่งกองทุนแบบไหนจะเหมาะหรือไม่เหมาะกับเรานั้น เราต้องดูว่าเรามีความเชื่อแนวไหนและต้องการอะไรในชีวิตเราครับ ถ้าหากเราเชื่อว่าตลาดหุ้นไม่มีประสิทธิภาพ ผู้จัดการกองทุนยังสามารถหาหุ้นดีๆ ได้อยู่ ดังนั้น การเลือกกองทุน Active อาจจะเป็นคำตอบที่ดีกว่าครับ แต่ถ้าหากคิดว่าตลาดหุ้นมีประสิทธิภาพแล้ว ในระยะยาวไม่สามารถหาหุ้นดีๆ ได้แล้ว การเลือกกองทุน Passive น่าจะเหมาะสมกว่าครับ

ตารางข้างบนเป็นตัวอย่างของกองทุนรวมหุ้นแบบ Passive ในประเทศไทยครับ ถ้าหากใครสนใจกองทุนแบบไหน จะเป็นกองทุนรวมหุ้นธรรมดา หรือ กองทุนรวม LTF ก็สามารถเลือกจากรายชื่อกองทุนเหล่านี้ได้ครับ

แต่อย่างไรก็ตามต้องระวังด้วยว่า กองทุนที่มีลงท้ายด้วย SET50 นั้น อาจจะไม่ใช่กองทุนที่เป็น Passive แต่ต้องดูด้วยว่านโยบายในการลงทุนนั้นเป็นแบบไหนด้วยครับ

สรุปสำหรับ กองทุนแบบ Passive นั้นจะเหมาะกับคนที่คาดว่าตลาดหุ้นจะเติบโตในระยะยาว หรือมองว่าเป็นเทรนด์ขาขึ้น และชอบค่าธรรมเนียมที่ค่อนข้างต่ำครับ หรือคนอีกกลุ่มที่ชอบเก็งกำไรจากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์นั่นเองครับ

ใครที่อยากดูแบบละเอียด อย่าลืมรับชมรายละเอียดทั้งหมดแบบเต็มๆได้ที่คลิปวีดีโอด้านล่างนี้ครับผม

ดูคลิปวิดีโอที่ : 

https://www.youtube.com/watch?v=gn8Y-GriCjE

กองทุนไหนดี Ep.6 - กองทุน Passive Fund ดีอย่างไร?

สำหรับตอนต่อไป จะเป็นเรื่องของการรีวิวกองทุนรวมทีน่าสนใจอีกตัวหนึ่ง ซึ่งเป็นกองทุนลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ พร้อมกับตอบคำถามคาใจกันครับ เอาเป็นว่าอย่าลืม!! รอติดตามชมกันกับ “รายการกองทุนไหนดี ?” ในวันอังคารที่ 18 เมษายน 2560 เวลาหนึ่งทุ่มตรงคร้าบบบบ

อย่าลืมกดติดตามพวกเราได้ที่ aomMONEY หรือกดเข้าร่วมกรุ๊ป กองทุนไหนดี ? ห้องแลกเปลี่ยนประสบการณ์เรื่องกองทุนรวมจาก aomMONEY เพื่อไม่ให้พลาดทุกบทความและความรู้จากพวกเรานะครับ