สวัสดีครับ กลับมาพบกับผม @TAXBugnoms เจ้าเก่าเจ้าเดิม กับหน้าที่เพิ่มเติมในการสรุปประเด็นเด็ดจากรายการ “กองทุนไหนดี Weekly” รายการที่จะทำให้คุณรู้ว่ากองทุนไหนดี กองทุนไหนเด่น และเหมาะสำหรับคุณครับผม 

สำหรับในกองทุนไหนดีตอนที่ 4 นี้ เรามาดูรีวิวกองทุน IPO ใหม่กับ KT-China และประเด็นที่ว่า “กองทุน IPO กับ กองทุนเก่า” แบบไหนดีกว่ากัน? 

เริ่มกันที่รีวิวกองทุน IPO กันก่อนครับ กับ KT-China หรือ กองทุนเปิดเคแทม ไชน่า อิคิวตี้ ฟันด์ ของ บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) นั่นเองครับ ซึ่งเป็นกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศที่มีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุน หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ กองทุนนี้จะรวบรวมเงินของเราไปลงที่กองทุนหลักในต่างประเทศ (Master Fund) นั่นเองครับ

โดยสำหรับ KT-China นี้จะลงทุนในกอง BGF China Fund Class D (ISIN : LU0359204475) ซึ่งมีนโยบายลงทุนแบบเลือกหุ้นพื้นฐานดีในตลาดหุ้นจีนที่เป็นกลุ่ม Greater China (จีน, ไต้หวัน, ฮ่องกง) โดยเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคารและเทคโนโลยีครับ แถมยังบริหารจัดการโดยผู้จัดการกองทุนชื่อดังในต่างประเทศ

สิ่งทีควรรู้ในการลงทุนกองทุนประเทศนี้ คือ ผลตอบแทนจะมีเรื่องของค่าธรรมเนียมและอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งต้องเสียค่าธรรมเนียมถึง 2 ต่อ (จากกองหลักในต่างประเทศและกองทุนในประเทศที่รวบรวมเงินด้วยครับ) ส่วนเรื่องการป้องกันอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับกองทุน  KT-China จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนครับ

โอเคครับ เรามาดูในส่วนของผลตอบแทนกันบ้าง ผลตอบแทนของกองทุนหลักอย่าง  BGF China Fund Class D นั่นให้ผลตอบแทนย้อนหลังที่ค่อนข้างดีครับ โดยถ้าดูเปรียบเทียบผลตอบแทนระยะยาวจะเห็นว่าค่อนข้างผันผวนในช่วงหนึ่ง ดังนั้นจึงเหมาะกับการลงทุนยาว ๆ ครับ โดยผลตอบแทนย้อนหลัง 5 ปีอยู่ที่ประมาณ 15% ครับ

จากตารางผลตอบแทนจะเห็นว่าผลตอบแทนย้อนหลังค่อนข้างดีครับ โดยดูอันดับในกลุ่ม Quartile (จัดอันดับกองทุน) ถือว่ากองทุนนี้อยู่ในกลุ่มแรก ๆ ตลอดครับ ซึ่งถือว่ามีแนวโน้มดี และกองทุน Master Fund กองนี้ยังไม่มีกองทุนในประเทศไทยเข้าไปลงทุนนะครับ

ในแง่ของการลงทุนในกลุ่มธนาคารและเทคโนโลยีเยอะนั้น ถือว่าเป็นแนวโน้มที่น่าสนใจครับ เพราะเนื่องจากในจีนมีธุรกิจเกิดใหม่เพิ่มมากขึ้น ย่อมต้องการเงินทุนหมุนเวียนในการทำธุรกิจซึ่งถือว่าเป็นโอกาสของธนาคารครับ

ส่วนทางด้านเทคโนโลยี ทางฝั่งจีนเองมีเป้าหมายเป็น Silicon Valley ทางด้าน Hardware ซึ่งน่าสนใจตรงที่ว่าอนาคตของเทคโนโลยีต่าง ๆ ของจีนจะเริ่มเติบโตไปอย่างต่อเนื่องครับ รวมถึงมีบริษัทด้านเทคโนโลยีใหญ่ ๆ ที่น่าสนใจอย่าง Alibaba หรือ Tencent ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มยักษ์ใหญ่ในจีนครับ

สำหรับค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ และจำนวนเงินการซื้อขั้นต่ำเป็นตามนี้ครับ ทำให้สามารถซื้อได้แม้ว่าจะมีเงินไม่มากนัก มีขั้นต่ำในการซื้อ 1,000 บาทครับผม

สำหรับคนที่สนใจ สามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนนี้เพิ่มเติมได้ที่ กองทุนเปิดเคแทม ไชน่า อิคิวตี้ ฟันด์ : KT-CHINA ครับผม

ดูคลิปได้ที่นี่ :

https://www.youtube.com/watch?v=WwDDxqYP6V4

กองทุนไหนดี? [SS2] Ep.4 : รีวิว KT-China พร้อมแนวคิดว่ากองทุนออกใหม่ หรือออกมานาน แบบไหนดีกว่ากัน

กองทุน IPO vs กองทุนเก่า เอาไงดี?

จากตารางจะเห็นว่าสิ่งที่น่าสนใจของกองทุนใหม่ หรือ IPO นั้น มักจะเป็นกองทุนที่เริ่มเป็นกระแส หรือมักจะเป็นกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศที่มีผลงานดีในอดีต แต่ก็ต้องระวังว่าความน่าสนใจนั้นมาจากการโปรโมทอย่างหนักหรือเปล่า? แถมค่าธรรมเนียมส่วนใหญ่มักจะแพงกว่า รวมถึงมีความซับซ้อนในการลงทุนที่มากกว่าจากเครื่องมือการเงินต่าง ๆ ที่มากกว่า

แต่สำหรับกองทุนเก่าก็ถือว่ามีข้อมูลเก่าอยู่แล้ว ค่าธรรมเนียมส่วนใหญ่จะถูกกว่า ความซับซ้อนน้อยกว่าและเข้าใจได้ง่ายกว่าครับ สำหรับมือใหม่ กองทุนแบบนี้อาจจะเหมาะกับเรามากกว่า ตรงนี้ก็ต้องประเมินดูกันครับว่าจะเอาแบบไหนดี

แต่ไม่ว่าจะกองทุนใหม่หรือกองทุนเก่า สิ่งที่เราทุกคนต้องทำคือการศึกษาเรื่องนโยบายการลงทุนให้ชัดเจน และมีความเข้าใจในสิ่งที่เรากำลังจะลงทุนครับ

อย่าลืมนะครับว่า ของใหม่นั้นอาจจะไม่ได้ดีเสมอไปครับ…

และทั้งหมดนี้ คือ ความรู้ที่ผมรวบรวมมาให้ในตอนที่ 4 นี้ อย่าลืมกดติดตามพวกเราได้ที่ aomMONEY หรือกดจอยน์กรุ๊ป กองทุนไหนดี ? ห้องแลกเปลี่ยนประสบการณ์เรื่องกองทุนรวมจาก aomMONEY เพื่อไม่ให้พลาดทุกบทความและความรู้จากเรานะครับ ตอนต่อไปมีอะไรที่น่าสนใจมาก ๆ ในเรื่องของกองทุนเด่นที่เราจะมาแนะนำ และคำถามที่ถามเข้ามาประจำว่า ลงทุนในกองทุนแล้วขาดทุนต้องทำยังไงดี? อย่าลืม!! รอติดตามชมกันกับ “รายการกองทุนไหนดี?” ในวันอังคารที่ 4 เมษายน 2560 เวลาหนึ่งทุ่มตรงคร้าบบบบ