เพราะช่วงนี้อะไรๆ ในชีวิตก็ไม่แน่นอนหรือมั่นคง จะดีกว่าไหมหากเรามีหลักประกันในชีวิตด้วย “เงินออมเป็นก้อน” ให้อนาคตเราในวันข้างหน้า รวมถึงมี “เงินก้อน”ทิ้งไว้ให้คนข้างหลังกรณีเกิดเหตุไม่คาดฝันกับชีวิตด้วย นั่นแหละครับ นี่คือเหตุผลว่า ทำไมมนุษย์เงินเดือนควรมีประกันสะสมทรัพย์อย่างน้อยสัก 1 ฉบับ

1. รู้จักประกันสะสมทรัพย์หรือประกันออมทรัพย์

เป็นประกันชีวิตอีกรูปแบบหนึ่งที่เน้นการออมเงิน พร้อมรับความคุ้มครอง เมื่อเราส่งเบี้ยประกันครบตามระยะเวลาที่ระบุในกรมธรรม์ ประกันชีวิตก็จะจ่ายเงินคืนให้เรา และถ้าเราเสียชีวิตระหว่างที่ส่งประกัน คนข้างหลังเราก็จะได้รับเงินก้อนตามจำนวนที่ระบุไว้ในสัญญา

2. ข้อดีของประกันสะสมทรัพย์

ขอสรุปง่ายๆ ครับ ประกันสะสมทรัพย์การันตีผลตอบแทนแน่นอน เงินต้นไม่หาย มีระยะเวลากำหนดแน่ชัดว่าต้องส่งเงินเท่าไหร่ เป็นระยะเวลาเท่าไหร่ ถ้าเราเสียชีวิตก็มีเงินก้อนให้คนข้างหลัง นำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ด้วย ที่สำคัญ ไม่เสียภาษีเหมือนดอกเบี้ยบัญชีออมทรัพย์ครับผม

3. ข้อด้อยล่ะ

เพราะมีสัญญาบังคับว่าเราต้องส่งประกันกี่ปี และถ้ายุติก่อน เราคือฝ่ายผิดสัญญา ทำให้สภาพคล่องน้อยมันกว่าการฝากเงิน และทุนคุ้มครองชีวิตอาจจะไม่สูงเท่าประกันชีวิตแบบอื่น เพราะเน้นออมเงิน อีกทั้งผลตอบแทนก็สู้ หุ้น กองทุน อะไรพวกนี้ไม่ไ้ดครับ

4. เราจะรู้ได้ไงว่าประกันสะสมทรัพย์ตัวไหนคุ้มสุด?

แนะนำง่ายๆ ลองคำนวณเบี้ยที่ส่งไปทั้งหมดว่าส่งเบี้ยไปเท่าไหร่ แล้วเราได้เงินรับคืนมาทั้งหมดเท่าไหร่ ลองมาหักลบกันดู แล้วเทียบกันดูหลายๆ เจ้าครับ แต่ทั้งนี้ก็อย่าลืมดูทุนประกันด้วยนะครับ เพราะแต่ละที่เบี้ยเท่ากัน แต่ทุนประกันไม่เท่ากัน รวมไปถึงดูระยะเวลาการส่งเบี้ยด้วยนะครับ

สุดท้าย aomMONEY ขอฝากว่า สำหรับคนมองหาที่ออมเงินในอนาคตและเงินทุนความคุ้มครองถึงคนข้างหลัง ประกันสะสมทรัพย์ก็น่าสนใจครับ แต่ถ้าเน้นอยากคุ้มครองชีวิตสูงๆ ก็ควรดูประกันชีวิตแบบอื่น หรือถ้าอยากได้ผลตอบแทนที่สูงกว่านี้ ก็ควรลงทุนในสินทรัพย์อย่างอื่นเพิ่มเติมครับ