ถ้าคิดถึง "รักแท้ไม่มีเงื่อนไข" เราจะคิดถึงความรักของใคร?

 

คนส่วนใหญ่มักจะตอบว่า "ความรักของพ่อกับแม่" เพราะเป็นรักที่ไม่มีเหตุผล เป็นห่วงทุกเรื่องตั้งแต่เราเกิดจนกระทั่งท่านสิ้นลมหายใจ วันนี้เรามีเรื่องราวความรักของพ่อที่รักและเป็นห่วงลูกมากๆมาเล่าให้ฟัง แม้ว่าลูกของคุณลุงท่านนี้ทำงานเลี้ยงดูตัวเองได้แล้ว ท่านก็ยังวางแผนเพื่อช่วยเหลืออยู่ห่างๆ ประเด็นที่น่าสนใจ คือ การวางแผนช่วยเหลือของคุณลุง ที่ผู้อ่านน่าจะนำไปประยุกต์ใช้กับตนเองได้นะจ๊ะ

เหตุเกิดในบูธ AomMoney ที่งาน SET in the city 2015 ณ สยามพารากอน

 

คุณลุงวัยเกษียณหน้าตาใจดีเดินเข้ามาที่บูธ ก็มีน้องพริตตี้สาวสวยประจำบูธเดินเข้าไปทักทายและแนะนำว่าที่บูธมีอะไรบ้าง เมื่อคุณลุงรู้ว่ามีให้คำปรึกษาทางการเงินก็ลองเข้ามาสอบถาม คุณลุงยื่นเอกสารแผ่นหนึ่งมาให้เราพร้อมกับถามว่า “หนูดูประกันชีวิตแบบนี้ให้ลุงหน่อยซิ”

 

เราก็งงว่าคุณลุงแก่ขนาดนี้จะซื้อประกันชีวิตไปทำไม เหมือนคุณลุงรู้ว่าเราคิดอะไรอยู่ เขาก็ตอบกลับมาว่า “กลัวลุงจะจ่ายประกันชีวิตไม่ครบใช่มั้ย” เราก็ยิ้มๆแล้วนั่งฟังเขาเล่าเรื่อง...

 

เป้าหมายการทำประกันชีวิตของคุณลุง

 

เป้าหมายหลักของประกันชีวิตนั้นใช้ปกป้องชีวิต แต่การซื้อประกันชีวิตของคุณลุงนั้นแตกต่างกับคนอื่นๆ คุณลุงต้องการทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ที่มีเงินคืนรายปี เพื่อนำเงินคืนจากประกันชีวิตมาช่วยเหลือลูกเวลาตกงานกระทันหันจะได้มีเงินมาใช้จ่ายแล้วจะได้ไม่เข้ามายุ่งกับเงินส่วนของคุณลุง

 

ทำไมคุณลุงเลือกใช้ประกันชีวิตจ่าย “เงินคืน” ให้ลูก

 

คุณลุงคิดแล้วว่า ถ้าเวลาลูกเดือดร้อนแล้วช่วยเหลือด้วยการให้เงินเป็นก้อนครั้งเดียวเกรงว่าลูกจะใช้หมดเร็ว ถ้าจะให้เงินช่วยเหลือหมดช้าลงก็ควรใช้ประกันชีวิตเข้ามาจ่ายให้ในรูปแบบ “เงินคืน” รายปีน่าจะดีกว่า 

 

โจทย์ตอนนี้ของคุณลุง คือ ค้นหาแบบประกันชีวิตสะสมทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงๆ ซึ่งส่วนใหญ่ในตลาดจะให้ผลตอบแทน 2-3% ต่อปี ตอนแรกจะแนะนำประกันชีวิตควบการลงทุนที่มีความเสี่ยงปานกลางถึงสูงและได้รับผลตอบแทนสูง แต่จากการสอบถามแล้วคุณลุงรับความเสี่ยงได้ต่ำมากก็เลยไม่ได้แนะนำ

 

อย่าเชื่อคำโฆษณา

 

ภาพข้างล่างนี้ คือ ใบปลิว ที่คุณลุงเดินไปสอบถามกับพนักงานบริษัทประกันแห่งหนึ่ง แล้วมาให้เราช่วยดูให้ ลุงถามว่า "ผลตอบแทน 7% อันนี้น่าสนใจไหม" ส่วนตัวก็ตอบกลับไปว่า ผลตอบแทนที่แท้จริงมันไม่น่าจะใช่ 7% แผ่นพับนี้น่าจะเป็นการโฆษณาเพื่อให้ดูน่าสนใจเท่านั้น แล้วเราก็อธิบายให้ฟังว่าเพราะอะไร?

 

แบบประกันชีวต

ภาพแบบประกันที่คุณลุงนำมาให้ช่วยดูให้

 

ผลตอบแทนจาก “เงินคืน” ของประกันชีวิตนั้นไม่ได้สูงมากอย่างคำโฆษณา เพราะค่าของเงินที่เรารับและจ่ายในแต่ละช่วงเวลานั้นมีมูลค่าที่แตกต่างกัน วิธีการคำนวณก็จะต้องใช้เครื่องคิดเลขทางการเงินจึงจะได้ผลตอบแทนที่แท้จริงหรือที่เราเรียกตามศัพท์การเงินว่า IRR (Internal Rate of Return) นั่นเอง เราอาจจะต้องมานั่งคำนวนเองนะจ๊ะ

 

เงิน 100 บาทมีค่าไม่เท่ากัน เพราะ...

 

มูลค่าเงินของแต่ละช่วงเวลาไม่เท่ากันเพราะสาเหตุจากเงินเฟ้อ สังเกตุได้จากสิ่งใกล้ตัว เช่น เมื่อสมัย 20 ปีที่แล้วข้าวแกงจานละไม่กี่ 10 บาท ตอนนี้ราคาจานละเกือบครึ่งร้อย แสดงว่าเงิน 100 บาทในสมัยก่อนซื้อข้าวแกงได้มากกว่าตอนนี้ ดังนั้น เมื่อเวลาเปลี่ยนไป มูลค่าของเงินก็จะเปลี่ยนตามไปด้วย (มูลค่าของเงินจะลดลงไปเรื่อยๆตามเวลาที่มากขึ้น)  

 

เนื้อหาโฆษณา

 

จากภาพนี้โฆษณาว่าได้รับผลตอบแทนรายปี 7% แล้วจะมากขึ้นเรื่อยๆจนถึง 9% ในปีที่ 8 เป็นต้นไป ซึ่งตัวเลข 7% นั้นมาจากนำเงินคืน 3,500 บาทหารด้วยเงินที่เราจ่ายคือ 48,500 บาท ก็จะคิดได้ว่าผลตอบแทน 3,500 / 48,500 = 7.21% โดยเป็นเลขกลมๆจำง่ายๆที่ 7% แล้วในปีที่ท้ายๆเราจะเห็นว่าได้รับ 9% ซึ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้ามองผิวเผินดูเหมือนจะสูง แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ เพราะอะไรเรามาลองคำนวณกัน

 

ผลตอบแทนที่แท้จริงไม่ใช่ 7%

 

การคำนวณตัวเลขมูลค่าเงินตามเวลานั้นจะต้องใช้เครื่องคิดเลขทางการเงินเข้ามาช่วยคำนวณ ซึ่งแบบประกันชีวิตสะสมทรัพย์นี้ได้ผลตอบแทนที่แท้จริง คือ 2.42%

 

วิธีคำนวณ

 

เราเคยเขียนวิธีคำนวณผลตอบแทนที่แท้จริง (IRR) ไว้แล้วที่บทความ "คำนวณผลตอบแทนจากการซื้อประกันแบบมืออาชีพ Link : https://aommoney.wpenginepowered.com/?p=8089" ก็เลยไม่อยากเขียนซ้ำให้ยืดยาว จึงรวบรัดตัดตอนนำวิธีคำนวณมาให้ดูว่าได้คำตอบอย่างไร ซึ่งเว็ปที่เราใช้คำนวณก็มีลิงค์อยู่ใต้ตารางลองกดเข้าไปใช้กันได้ ฟรี!!

1IRR

เว็บใช้ที่ช่วยคำนวณสูตรคำนวณ IRR 

http://tools.financial-projections.com/IRRInternalRateOfReturn.shtml

 

เครื่องมือทางการเงินแต่ละแบบมีหน้าที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับการนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับเป้าหมายของตนเอง ซึ่งตามหลักแล้วประกันชีวิตนั้นมีเป้าหมายเพื่อใช้ปกป้องชีวิต

 

แต่ถ้าใครมีเป้าหมายอื่น เช่น นำผลตอบแทนมาให้ลูกหรือคนที่รัก โดยดูผลตอบแทนเหมือนคุณลุงท่านนี้ก็อย่าพึ่งเชื่อคำโฆษณา เพราะจะต้องมานั่งคำนวณเอง โดยใช้เครื่องคิดเลขทางการเงิน สรุปว่าแผ่นพับโฆษณาประกันชีวิตสะสมทรัพย์แผ่นนี้มองดูคร่าวๆแล้วให้ 7-9% แต่ความจริงให้ผลตอบแทนที่แท้จริงคือ 2.42% ต่อปีเท่านั้น

 

ข้อคิดจากเรื่องของคุณลุง

  1. ความรักของพ่อแม่ยิ่งใหญ่และไม่มีที่สิ้นสุด เป็นรักแท้ไม่มีเงื่อนไข หาข้อมูล เตรียมพร้อมให้ลูกเสมอเพื่อไม่ให้ลูกลำบาก แม้ว่าลูกจะเติบโตจนกระทั่งทำงานเลี้ยงตนเองได้แล้วก็ยังคอยห่วงใยตลอดเวลา
  2. คุณลุงมีเป้าหมายในการซื้อประกันชีวิตที่ชัดเจน ศึกษาและสอบถามข้อมูลให้เข้าใจ โดยไม่รีบด่วนตัดสินใจจากคำโฆษณาชวนเชื่อที่เป็นผลตอบแทนหลายร้อย %
  3. แนวทางการให้เงินช่วยเหลือลูกโดยการซื้อประกันเพื่อรับผลตอบแทนเป็น “เงินคืน” รายปีนั้นเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่น่าสนใจ ผู้อ่านน่าจะลองนำไปประยุกต&#