ช่วงที่ผ่านมามีแฟนเพจมาถามว่า “เขาจะทำบัตรเครดิตดีไหม” เราก็แนะนำว่าดูที่เป้าหมายการใช้เป็นหลัก ถ้าจำเป็นต้องใช้จริงๆก็มีแค่ 1 ใบไว้ติดกระเป๋า แต่ถ้าคิดว่าสมัครบัตรไว้ก่อนเผื่อมีเหตุฉุกเฉินจะได้หยิบมาใช้ ส่วนใหญ่มักจะได้ใช้จริงจัง แล้วก็จะตามมาด้วยบัตรใบที่ 2 , 3 และ 4 ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเข้าสู่โหมด “มนุษย์หนี้” อย่างถาวรอีกด้วย

 

ตัวอย่าง เส้นทางหุบเหวแห่งหนี้

วิธีใช้บัตรเครดิตที่ไม่เสียเครดิต

ที่มา : http://pantip.com/topic/33102337

 

มหกรรมหนี้ครัวเรือนที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวบัตรเครดิตเพียงอย่างเดียว แต่มันต้องมาพร้อมกับการใช้จ่ายอย่างบ้าคลั่งของผู้ถือบัตรที่อยากได้อะไรก็ซื้อ ประหนึ่งว่าการใช้บัตรเต็มวงเงินเป็นเป้าหมายของชีวิตซะอย่างงั้น ซึ่งความจริงแล้วบัตรเครดิตจะให้ประโยชน์หรือโทษกับเรานั้น มันขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้ถือบัตรมากกว่า

 

“ถ้าเราไม่อยากมีประสบการณ์ความผิดพลาดเป็นของตนเอง

เราก็เรียนรู้ประสบการณ์ความผิดพลาดของผู้อื่น”

 

ดังนั้น ถ้าเราไม่อยากจะเข้าร่วมมหกรรมหนี้สินในครั้งนี้และครั้งต่อๆไป ก็ต้องมารู้จักวิธีใช้บัตรที่ไม่ทำให้เสียเครดิตกันดีกว่านะจ๊ะ  

 

3 วิธีใช้บัตรเครดิตที่ไม่เสียเครดิต

 

วิธีที่ 1 จดทุกครั้งที่จ่าย

 

รูดปรื๊ดแต่ละครั้งเราก็ต้องเก็บหลักฐานไว้ด้วย จะได้รู้ว่าเดือนนี้เราใช้จ่ายอะไรไปบ้าง มีหนี้ที่รอจ่ายในอนาคตเท่าไหร่ ครบกำหนดจ่ายวันไหนจะได้ไม่ลืมจ่าย สามารถคำนวณรายจ่ายต่อเดือนในอนาคตได้ เมื่อมีใบสรุปยอดหนี้บัตรเครดิตมาส่งที่บ้านจะได้ตรวจดูว่า มันตรงกับบิลที่เราเก็บไว้หรือไม่ หากมีรายจ่ายต้องสงสัยหรือมีอะไรผิดปกติก็สามารถสอบถามเจ้าหน้าที่เพื่ออายัดรายการได้

 

วิธีที่ 2 โปรโมชั่นผ่อน 0% เหมาะสมกับคนที่มีวินัยการเงินเท่านั้น!!

 

ช่วงที่ร้านค้าต้องการกระตุ้นยอดขาย เราก็จะเห็นโฆษณาโปรโมชั่นผ่อน 0% ผุดขึ้นแทบทุกที่ ไม่เว้นแม้แต่ร้านอาหารที่กินก่อน ผ่อนทีหลังได้นะจ๊ะนายจ๋า หลายคนที่กำลังผ่อนโปร 0% อยู่ก็จะบอกว่ามันคุ้มค่ามากๆ เพราะทำให้เราจ่ายต่อเดือนน้อยลง แถมไม่ต้องเสียดอกเบี้ยอีกด้วย


แหม!! ชีวิตดี๊ดี


“แม้ว่าผ่อน 0% มันคุ้มค่าจริงจริ๊ง แต่ว่ามันเหมาะกับเราไหม” จากความคุ้มค่าที่เราคิดว่าจะได้ มันอาจจะกลายเป็นหายนะไปทันที ถ้าหนี้เก่าที่กองโตเป็นภูเขาเลากายังตามมาหลอกหลอนเราอยู่ ทางที่ดีควรสำรวจตัวเองก่อนว่า ตอนนี้เรามีหนี้ที่ต้องผ่อนรายเดือนอยู่แล้วเท่าไหร่ เป็นกี่ % ของรายได้ จะได้รู้ว่า...


  • ถ้าหนี้เก่าที่เรากำลังผ่อนยังแทบจะเอาตัวไม่รอด ก็ไม่สมควรจะสร้างหนี้เพิ่ม ควรอยู่ห่างกันสักพักกับโปร 0% ก่อนที่จะทำให้ชีวิตเราเหน็ดเหนื่อยไปมากกว่านี้นะจ๊ะ
  • คำนวณแล้วว่าถ้าสร้างหนี้ไม่เกิน 25% ของรายได้ ชีวิตของเราก็ยังใช้จ่ายคล่องตัวลื่นปรื๊ดๆ ก็ควรพยายามควบคุมไม่ให้เกิน เช่น รายได้ 20,000 บาท ก็ไม่ควรมีหนี้เกิน 5,000 บาท ถ้าเราจะซื้อของที่ผ่อน 0% ถ้าคำนวณแล้วว่าหนี้ใหม่ไปผสมกับหนี้เก่าแล้วไม่เกิน 5,000 บาทต่อเดือน แบบนี้ก็จัดเต็มกับโปรผ่อน 0% ไปได้เลยนะจ๊ะ

 

วิธีที่ 3 จ่ายเต็มทุกครั้งที่รูดบัตรเครดิต

 

มันจะดีไหมถ้าเราได้สิ่งของมาใช้ก่อน แล้วอีก 40-50 วัน ค่อยนำเงินมาจ่าย แล้วมันจะดี 2 เด้ง ถ้าเรานำเงินที่รอจ่ายนั้นมาลงทุน(ความเสี่ยงต่ำ : กองทุนรวมตลาดเงิน) เพื่อจะได้รับผลตอบแทนไปพร้อมกัน

 

วิธีใช้บัตรเครดิตที่ไม่เสียเครดิต

 

ตัวอย่าง การเก็บเงินจ่ายบัตรเครดิต

 


วิธีใช้บัตรเครดิตที่ไม่เสียเครดิต

 

เราจะเปิดใช้บริการออนไลน์ทั้งบัญชีออมทรัพย์และซื้อขายกองทุนรวม (หรือผูกกับบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูงก็ได้ แต่ต้องดูจำกัดการฝากถอนหรือไม่) สิ่งแรกที่ควรดู คือ เราใช้บัตรเครดิตของธนาคารอะไร เช่น เราใช้บัตรเครดิตแล้วตัดบัญชีจ่ายบัตรเครดิตกับธนาคาร A


จากนั้นก็ไปดูว่าที่ธนาคาร A มีกองทุนรวมตลาดเงินอะไรบ้าง เลือกมา 1 กองทุน เลือกกองทุนที่มีขั้นต่ำน้อยๆ ทำที่ธนาคารเดียวกันจะได้ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมโอนไปมา


เราสมัครกองทุนรวมแล้วเปิดใช้บริการซื้อขายแบบออนไลน์ แนวคิดการเก็บเงินจ่ายบัตรเครดิต คือ เราใช้บัตรเครดิตเท่าไหร่ก็ซื้อกองทุนรวมเท่านั้น เช่น วันที่เรารูดบัตรเครดิตซื้อของ 5,000 บาท เก็บบิลไว้ตรวจกับใบแจ้งหนี้ จากนั้นก็โอนเงินจากบัญชีออมทรัพย์ไปซื้อกองทุนรวมตลาดเงินเก็บไว้ทันที 5,000 บาท


พอใกล้ถึงกำหนดจ่ายบัตรเครดิต 5,000 บาท เราจะขายกองทุนรวมตลาดเงิน วันรุ่งขึ้นเงินก็จะเข้าบัญชีออมทรัพย์พอดีกับช่วงเวลาการจ่ายหนี้บัตรเครดิต ควรจ่ายแบบครั้งเดียวแล้วปิดหนี้ทั้งหมด หรือผ่อนจ่ายรายงวดจากโปรโมชั่นผ่อน 0% ให้ครบตามจำนวนตามใบแจ้งหนี้ วิธีนี้เราจะได้เห็นยอดเงินในบัญชีออมทรัพย์ลดลง ทำแบบนี้ทุกครั้งที่รูดบัตรเครดิต จะทำให้เรารู้ว่าเหลือเงินที่รูดได้อีกเท่าไหร่


วิธีนี้เราได้กำไรจากการขายกองทุนรวมมานิดหน่อย ได้สะสมแต้มของบัตรเครดิต ไม่เป็นหนี้เพราะมีเงินจ่ายครบ รวมถึงจำกัดการใช้งานบัตรเครดิตให้เท่ากับเงินที่เหลืออยู่ในออมทรัพย์ ส่วนข้อควรระวัง คือ ไม่ควรเก็บเงินไว้ในบัญชีธนาคารออนไลน์มากเกินไป ถ้าเกิดข้อผิดพลาดเงินจะหายได้ (ข้อผิดพลาด เช่น คอมฯเราถูกไว้รัสจนถูกล้วงข้อมูล) ใช้เวลาติดตามเงินค่อนข้างนานด้วยนะจ๊ะ

 

 

วิธีใช้บัตรเครดิตที่ไม่เสียเครดิต

 

สรุปว่า…

 

“บัตรเครดิต” ทำให้เรามีอำนาจทุกการใช้จ่าย แต่คนส่วนใหญ่มักควบคุมมันไม่ได้ จนทำให้อำนาจนั้นกลับมาทำร้ายเราทีหลัง ด้วยภาระหนี้ที่ยิ่งดิ้นก็ยิ่งยุ่งเหยิง จากบทเรียนของเหล่าผู้กล้าที่เป็นหนี้สินรุงรังเพราะบัตรเครดิต ทำให้เรารู้ว่าทางเดินไหนจะนำไปสู่หุบเหวลึก ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวเราแล้วล่ะว่ายังจะทำแบบเดิมที่ผิดซ้ำๆอยู่ไ&#