แฟนเพจหลายคน Inbox มาปรึกษาแอดมินเพจอภินิหารเงินออมว่าเขาควรทำยังไงดี ตอนนี้เก็บเงินไม่อยู่ เห็นเงินไม่ได้ เพราะมีเงินเท่าไหร่ก็ใช้หมด ในขณะที่บางคนออมเงินไปสักพักก็หมดไฟ ขี้เกียจออมไปซะงั้น เพราะรู้สึกว่าเศษเงินเล็กน้อยออมเงินไปก็ไม่ได้อะไร แล้วก็มาตบะแตก ไปกับโปรโมชั่นลดราคาที่ทำให้ใจหวั่นไหวจ่ายเกลี้ยงกระเป๋าทุกที ไม่ต้องไปพึ่งหมอดูก็รู้เลยว่าชะตาชีวิตหลังเกษียณต้องอยู่ลำบาก เพราะจะต้องรอคอยและพึ่งพาคนอื่นตลอดเวลา ฮึ ฮึ ชีวิตที่ดูแลตัวเองไม่ได้ มันโหดร้ายมากเลยนะจ๊ะ
“ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน” เป็นทางออกที่ดีที่สุด
เอางี้ ถ้าเราเป็นโรคแพ้เงิน เห็นทีไรใช้หมดทุกทีหรือหมดไฟ หมดกำลังใจในการออมเงิน ลองเปลี่ยนมาเก็บเป็นสิ่งของกันดูมั๊ย มันจะได้รู้สึกว่ามีอะไรที่จับต้องได้บ้างอย่างการเก็บสะสม “ทองคำ” จากประสบการณ์ซื้อทองของ 2 แฟนเพจที่จะทำให้เรารู้ว่าเศษเงินหลักสิบก็ซื้อทองคำได้ รู้จักการทยอยซื้อทองคำรายเดือนด้วยเงินหลัก 1,000 บาท พร้อมแนวคิดและข้อควรระวังในการซื้อทองคำ จะมีอะไรบ้างอ่านต่อกันได้เลยจ้า
ทำไม “ทองคำ” ถึงได้รับความนิยม
ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันชีวิตของเราผูกพันธ์กับทองคำมาเกือบ 6,000 ปี (ประวัติทองคำอย่างละเอียดยิบได้ที่ลิงค์ท้ายบทความ) ถ้าจะให้สรุปสั้นๆที่เราคุ้นเคยกัน คือ ...
- เครื่องประดับใส่เพื่อความสวยงาม เช่น แหวนทอง สร้อยทอง กำไรทอง ใส่เพื่อความสวยงาม แต่ตอนนี้โจรเยอะก็ไม่ค่อยมีใครกล้าใส่ เก็บไว้ในตู้เซฟจะปลอดภัยกว่า
- ใช้ในโอกาสพิเศษ เช่น ให้ของขวัญ สินสอดในงานแต่งงาน มรดกให้ลูกหลาน
- ช่วยเหลือเราในช่วงต้องการเงินเร่งด่วน เช่น ช่วงเปิดเทอมผู้ปกครองช็อตเงินกะทันหันมักจะนำทองคำไปจำนำ เพื่อนำเงินมาจ่ายค่าเทอมและค่าอุปกรณ์การเรียนของลูกหลาน
- ทองคำเป็นทางเลือกในการลงทุน ใช้ในการกระจายความเสี่ยง เราจะได้รับกำไรจากการซื้อขายเท่านั้น เพราะทองคำไม่มีเงินปันผล มีการลงทุน 2 รูปแบบ
- การสะสมทองคำจริงๆ เช่น เหรียญทอง, ทองคำแท่ง , ออมทอง
- ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เช่น กองทุนรวมทองคำ, ETF ทองคำ ,gold futures
ทองคำมีความเสี่ยงมั๊ย
แหล่งเก็บเงินที่เราคุ้นเคยกันมาตั้งแต่ในอดีต เช่น ฝากออมทรัพย์ ฝากประจำ ซื้อสร้อยทอง ทองคำแท่ง แต่ปัจจุบันมีวิธีการลงทุนให้เราเลือกเยอะม๊าก มีความเสี่ยงแตกต่างกันไป (ตามภาพข้างล่างนี้) ซึ่งในอนาคตจะยิ่งซับซ้อนและพ่วงกันไปมามากขึ้น เช่น ถ้าต้องการฝากประจำได้รับดอกสูงจะต้องสมัครประกันชีวิตด้วย
เราจะเห็นว่าทองคำ (สี่เหลี่ยมสีแดง) เป็นการลงทุนทางเลือก ที่มีความเสี่ยงจากราคาที่ขึ้นๆลงๆตลอดเวลา ซึ่งหลักการเก็บเงินที่ดีควรกระจายเงินไปเก็บไว้หลายๆแห่ง เพราะเวลาเกิดเหตุอะไรขึ้นจะได้มีเงินส่วนอื่นมาใช้จ่ายได้ เช่น สมมติว่าเราเก็บเงินทั้งชีวิตไว้ที่สหกรณ์คลองจั่นที่เดียว ถ้าตอนนี้จำเป็นจะต้องใช้เงินก็ถอนออกมาใช้ไม่ได้ เพราะสหกรณ์มีปัญหา แต่ถ้าเรากระจายเงินไว้ที่ต่างๆ เช่น สหกรณ์ ฝากประจำ กองทุนรวม ทองคำ หุ้น ฯลฯ ถ้าสหกรณ์ล้มเราก็ยังมีเงินจากส่วนอื่นๆมาใช้จ่ายระหว่างรอคดีสิ้นสุดได้
ที่มา : ตลาดหลักทรัพย์ คลิกที่นี่
ตอนนี้เรารู้จักทองคำกันคร่าวๆแล้ว ต่อไปมาดูผลงานของแฟนเพจที่ Inbox ทั้ง 2 ภาพนี้มาให้ เรารู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูกที่เห็นว่าความพยายามที่ทำไปทั้งหมดมันได้ผล เราทำให้แฟนเพจออมเงินได้จริงๆ ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้เราขอนุญาตแฟนเพจเรียบร้อยแล้ว แต่ขอปิดบังชื่อ Facebook ของแฟนเพจไว้เพื่อความปลอดภัย เดี๋ยวนี้มิจฉาชีพเยอะ ต้องระวังให้มากๆ
2 ไอเดียเก็บเงินซื้อทองคำ
ไอเดียที่ 1 เก็บเงินซื้อครั้งเดียว
เรื่องมีอยู่ว่า...
ตั้งแต่กันยายน 59 แฟจเพจคนนี้ออมเงินตามไอเดียที่เราแนะนำไปในเพจอภินิหารเงินออม เช่น เก็บแบงค์ 50 เก็บเงินจากค่ากาแฟ รวมถึงหยอดกระปุกออมสินจากเลขท้าย 2 ตัว มาถึงเดือน พ.ค. 2560 เวลาประมาณ 8 เดือนก็ได้เงินมาก้อนหนึ่งไปเก็บไว้ในที่ที่เขาเข้าใจมันมากที่สุด คือ การซื้อสร้อยทอง ผลงานตามภาพนี้เลยจ้า
ที่มา : ภาพที่โพสต์จากเพจพภินิหารเงินออม คลิกที่นี่
หลังจากดูภาพนี้แล้วคิดว่าน่าจะทำให้หลายๆคนมีแรงฮึดในการออมเงินมากขึ้น รู้ว่าจากเงินเศษเล็กเศษน้อยที่หยอดกระปุกออมสิน เมื่อรวมกันก็กลายเป็นเงินก้อนใหญ่ กลายเป็นทรัพย์สินที่มีคุณค่าทางจิตใจและใช้ประโยชน์ในช่วงที่ขัดสนได้ในเวลาเดียวกัน สำหรับไอเดียออมเงินของเพจอภินิหารเงินออมยังมีอีกเยอะมาก คลิกดูได้ที่ 2 ลิงค์นี้นะจ๊ะ
- อัลบั้มภาพ “รู้ยัง คนไทยออมเงิน” ปี 2558 คลิกที่นี่
- อัลบั้มภาพ “ออมเงินง๊าย ง่าย” ปี 2559 คลิกที่นี่
แนวคิดการเลือกซื้อทองคำ
ราคาทองคำแท่งและทองรูปพรรณ (เช่น สร้อย แหวน กำไร ต่างหู) นั้นแตกต่างกัน เช่น
ที่มา : http://ทองคําราคา.com/
ทองคำรูปพรรณ
- เหมาะกับการใส่เป็นเครื่องประดับ ไม่เหมาะกับการซื้อลงทุนเพราะส่วนต่างราคารับซื้อและขายออกแพงถึงบาทละ 1,000 บาท
- ถ้าจำเป็นจะต้องใช้เงินสด ก็ขายทองออกมาได้ เราซื้อทองจากร้านไหนก็ควรกลับไปขายที่ร้านเดิม จะได้ราคาดีกว่าไปขายร้านอื่น
- มีค่ากำเหน็จ คือ ค่าแรงช่าง ความยากง่ายของลวดลายทอง ค่าใช้จ่ายในการผลิตต่างๆ แต่ละร้านจะคิดค่ากำเหน็จไม่เท่ากัน ปัจจุบันน้ำหนักทอง 1 บาทคิดค่ากำเหน็จอยู่ที่ 600 - 800 บาท ตัวอย่าง เราซื้อทองรูปพรรณ 1 บาท ราคา 20,950 บาท ค่ากำเหน็จ 800 บาท เราจะต้องจ่ายเงินทั้งหมด 21,750 บาท
ทองคำแท่ง
- เหมาะกับการกระจายการลงทุน
- มีให้เลือกหลายขนาด เช่น 1- 2 สลึง , 5-10 บาท , 1 กิโลกรัม
- มีค่าบล็อกอยู่ที่ประมาณ 100 - 300 บาท ถ้ามีลวดลายข้างบนด้วยก็จã