#อัพเดทข้อมูลล่าสุด 29/03/61


“กองทุนการออมแห่งชาติ” เรียกสั้นๆว่า กอช. เป็นกองทุนที่เป็นความหวังของคนรากหญ้าที่จะสร้างวินัยการออมเงินไว้ใช้ในช่วงโค้งสุดท้ายของชีวิต ทำให้หลังอายุ 60 ปีเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ยืนได้ด้วยลำแข้งของตนเอง เพราะเป็นวัยเก๊าที่มีเงิน


ในปัจจุบันการออมเงินเพื่อเกษียณนั้นจะเป็นรูปแบบการออมเงินภาคบังคับที่มีเฉพาะกลุ่มมนุษย์เงินเดือนเท่านั้น เช่น

  • ข้าราชการ มีกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)
  • พนักงานเอกชน มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนประกันสังคม

 

กองทุนการออมแห่งชาติเกิดมาเพื่อคน 2 กลุ่มนี้...


กลุ่มที่ 1 "กลุ่มคนอินดี้ทำงานอิสระ"

แม่บ้าน แม่ค้า/พ่อค้าที่ตลาดนัด พี่วินมอไซด์ คนขับแท็กซี่ คนเก็บขยะ ชาวสวน ชาวนา ชาวไร่ สำหรับทุกๆคนที่ไม่มีการออมเงินภาคบังคับแบบมนุษย์เงินเดือน เป้าหมายเพื่อจะได้มีเงินเก็บที่แน่นอนไว้ใช้ยามชรานั่นเอง


กลุ่มที่ 2 "เด็กวัยรุ่น"

นับว่า กอช.เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการปลูกฝังนิสัยการออมตั้งแต่เด็ก นักเรียน นักศึกษาสามารถเริ่มออมได้ตั้งแต่อายุ 15-60 ปี ยิ่งออมเร็วยิ่งมีเงินเก็บมากนะจ๊ะหนูๆ

 

วิธีตรวจสอบว่าเราสมัคร กอช. ได้มั๊ย

ชาติช่วย! รวยด้วยกองทุนการออมแห่งชาติ อั

คลิกได้ที่ลิงค์นี้ https://pension.nsf.or.th/rights/


ตัวอย่างการตรวจสอบสิทธิ ถ้าเราสมัครได้ก็จะบอกว่าเรามีสิทธิเป็นสมาชิก กอช. แต่ถ้าเรามีสิทธิอื่นๆอยู่แล้วก็จะขึ้นภาพลักษณะแบบนี้ว่าสมัคร กอช. ไม่ได้นะจ๊ะ ^^

ชาติช่วย! รวยด้วยกองทุนการออมแห่งชาติ อั



ทำไมต้องออมในกองทุนการออมแห่งชาติ

“เราออม - รัฐออม” เราจ่ายเงินสะสมเข้ากองทุนและรัฐก็จะช่วยเราออมโดยจ่ายสมทบให้สูงสุดปีละ 1,200 บาท เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจให้คนหันมาออมเงินมากขึ้น โดยออมขั้นต่ำครั้งละ 50 - 13,200 บาท (นำไปลดหย่อนภาษีได้) ถ้าเดือนไหนเราไม่ออมเงินเข้ากองทุน รัฐก็จะไม่ออมเงินเข้ากองทุนช่วยเราออมด้วยเช่นกัน


ดังนั้น ออมทุกเดือนดีกว่า ส่วนเงินที่รัฐออมช่วยเรานั้นจะปรับทุก 5 ปี ตามสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป วิธีนี้เป็นการลดภาระของรัฐเรื่องของสังคมผู้สูงอายุในระยะยาวได้อีกด้วย


การออมเงินเข้ากองทุนไม่จำเป็นต้องเท่ากันทุกเดือน จะออมมากหรือน้อยตามกำลังทรัพย์ของเราเลยนะจ๊ะ ถ้าตอนไหนทำงานประจำมีประกันสังคมแล้ว ก็สามารถทำเรื่องหยุดจ่ายก่อนได้ ซึ่งเงินก็ไม่ได้หายไปไหน ถ้าสมมติว่าลาออกมาทำงานอิสระแล้วก็สามารถกลับมาส่งต่อกองทุนการออมได้เหมือนเดิมจ้า 

 

สัดส่วนการออมในกองทุนการออมแห่งชาติ

ชาติช่วย! รวยด้วยกองทุนการออมแห่งชาติ อั


ถ้าเราใส่เงินเข้าไปที่ กอช. ปีละ 13,200 บาท แต่ละช่วงอายุรัฐจะช่วยเราออมเงินกี่บาท เรียกว่าได้ทันทีตั้งแต่สะสมเงินเข้าไป ซึ่งรัฐจะให้เงินส่วนนี้เฉพาะปีที่เราสะเงินเข้า กอช. เท่านั้น

  • ถ้าเราออมตั้งแต่อายุ 15 - 30 ปี รัฐออมช่วยเรา 50% ของเงินสะสม ไม่เกิน 600 บาทต่อปี คิดเป็นผลตอบแทนเบื้องต้น 4.54% ต่อปี [วิธีคำนวณ (600 x 100)/13,200 บาท]
  • ถ้าเราออมตั้งแต่อายุ 30 - 50 ปี รัฐออมช่วยเรา 80% ของเงินสะสม ไม่เกิน 960 บาทต่อปี คิดเป็นผลตอบแทนเบื้องต้น 7.27% ต่อปี [วิธีคำนวณ (960 x 100)/13,200 บาท]
  • ถ้าเราออมตั้งแต่อายุ 50 - 60 ปี รัฐออมช่วยเรา 100% ของเงินสะสม ไม่เกิน 1,200 บาทต่อปี คิดเป็นผลตอบแทนเบื้องต้น 9.09% ต่อปี [วิธีคำนวณ (1,200 x 100)/13,200 บาท]


ผลตอบแทนของกองทุนการออมแห่งชาติ

เมื่อเราจ่ายเงินเข้าไปในกองทุนจะเรียกว่า “เงินสะสม” แล้วเงินก็จะไปลงทุนโดยผู้จัดการกองทุนที่มีความชำนาญการลงทุนไปในสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูงไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 ออกมาเป็น “ผลประโยชน์ของเงินสะสม” ส่วนรัฐออมช่วยเราจะเรียกว่า “เงินสมทบ” เมื่อนำไปลงทุนแล้วจะเรียกว่า “ผลประโยชน์ของเงินสมทบ” ตามภาพข้างล่างนะจ๊ะ

ผลตอบแทนจากการลงทุนรัฐบาลรับประกันว่าต้องไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือนเฉลี่ยของธนาคารออมสิน ธ.ก.ส.และธนาคารพาณิชย์ใหญ่อีก 5 แห่ง

 

ชาติช่วย! รวยด้วยกองทุนการออมแห่งชาติ

 

อัพเดทการลงทุนของ กอช. 28 ก.พ. 61

ชาติช่วย! รวยด้วยกองทุนการออมแห่งชาติ อั


เชื่อว่าหลายคนอ่านมาถึงตรงนี้แล้วกำลังประเมินความคุ้มค่าของเงินที่จะได้รับในอนาคตเทียบกับเงินเฟ้อ รวมถึงผลตอบแทนในการลงทุนในรูปแบบต่างๆว่าลงทุนกองทุนรวมหุ้นได้ผลตอบแทนสูงกว่า ขณะที่บางคนรอเวลาว่า “เดี๋ยวค่อยออม” เพราะลำพังใช้จ่ายในแต่ละวันยังไม่พอแล้วจะเอาที่ไหนมาออม

วิ่ง 10 กิโลเมตรก็ต้องเริ่มวิ่งทีละก้าว

 การออมเงินก็เช่นกันก็ต้องเริ่มจากเงินก้อนเล็กๆที่ครั้งละ 50 บาท เมื่อเรามีรายได้มากขึ้นก็ออมมากขึ้น ซึ่งออมได้สูงสุดปีละ 13,200 บาท (หรือเดือนละ 1,100 บาท) ซึ่งเป็นโอกาสการลงทุนเล็กๆที่จะทำให้คนรากหญ้ามีการออมเงินเกษียณให้ดูแลตนเองได้

 

ความคิดเห็นส่วนตัวจากการที่เห็นคนงานที่บ้านหาเช้ากินค่ำ เวลาว่างก็คิดแต่ว่าวันนี้จะทำอะไรเพื่อให้ตอนเย็นมีเงินซื้อของกิน ซึ่งมีโอกาสในการเก็บออมเงินน้อยมากเพราะไม่มีเครื่องมือทางการเงินที่เปิดโอกาสให้คนกลุ่มนี้ได้ลงทุน กองทุนการออมแห่งชาติเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะทำให้คนกลุ่มนี้มีเงินออมที่มากขึ้น


กอช. ตัวช่วยลดหย่อนภาษี

ชาติช่วย! รวยด้วยกองทุนการออมแห่งชาติ อั

ที่มา : ลดหย่อนภาษีปี 2560 ฉบับสายย่อ (คลิกที่นี่)


เราจะได้รับเงินจากกองทุนการออมแห่งชาติตอนไหน?

  • อายุครบ 60 ปีบริบูรณ์
  • ทุพพลภาพก่อนอายุ 60 ปี
  • ลาออกจากกองทุน
  • ตาย

 

 

ชาติช่วย! รวยด้วยกองทุนการออมแห่งชาติ

 

 

 

ชาติช่วย! รวยด้วยกองทุนการออมแห่งชาติ

 

 

 

ชาติช่วย! รวยด้วยกองทุนการออมแห่งชาติ

 

 

ชาติช่วย! รวยด้วยกองทุนการออมแห่งชาติ


- ตัวอย่างการคำนวณเงินบำบาญ -

ตัวอย่างข้างล่างนี้เป็นกรณีส่งต่อเนื่องทุกปีไม่ขาด ตั้งแต่อายุ 15 - 60 ปี ทำงานอิสระเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงหากเราสะสมเงินตั้งแต่อายุ 15 ปี พอเรียนจบอาจจะทำงานประจำหรือเป็นข้าราชการ ทำให้มีสิทธิประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือ กบข. จึงทำให้ต้องพักการส่งเงินเข้า กอช. เพราะมีสวัสดิการแล้ว แต่ถ้าลาออกจากงานมาทำอาชีพอิสระและไม่มีสวัสดิการใดๆเลย ก็สามารถส่งเงินเข้า กอช.ต่อไปได้


ชาติช่วย! รวยด้วยกองทุนการออมแห่งชาติ อั

ชาติช่วย! รวยด้วยกองทุนการออมแห่งชาติ อั

ชาติช่วย! รวยด้วยกองทุนการออมแห่งชาติ อั

คำนวณเองได้ที่ https://pension.nsf.or.th/#


สมัครกองทุนการออมแห่งชาติต้องไปที่ไหน?

นำบัตรประชาชนใบเดียวไปกรอกเอกสารการสมัครได้เลยที่ 4 ธนาคาร คือ

  • ธนาคารออมสิน
  • ธนาคารกรุงไทย
  • ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธ.อ.ส)
  • ธ.ก.ส.


ล่าสุด!! หักบัญชีเงินฝากแบบอัตโนมัติได้แล้ว 

  • เราจะต้องไปแจ้งที่ธนาคารได้ทั้ง 4 แห่ง เพื่อขอให้หักผ่านบัญชี โดยระบบจะส่งเงินเข้า กอช. แบบอัตโนมัติให้เราทุกวันที่ 20 ของทุกเดือน แต่ถ้าเงินในบัญชีเงินฝากมีน้อยกว่าตามจำนวนที่แจ้งไว้ให้หักอัตโนมัติ ระบบจะไม่นำไปสมทบเป็นยอดการหักบัญชีอัตโนมัติในเดือนถัดไป
  • เจ้าของบัญชีเงินฝากที่ให้หักแบบอัตโนมัติ ไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิก กอช. ก็ได้ เช่น ผู้ปกครองที่เป็นข้าราชการสามารถแจ้งให้หักบัญชีเงินฝากตนเองเข้าบัญชีเงินออม กอช. ของสมาชิกที่เป็นลูกหลานได้


มาถึงตรงนี้ก็น่าจะทำให้คนทำงานอิสระเห็นเงินเกษียณของตัวเองชัดเจนขึ้นแล้วนะคะ แต่ดูจากตัวเลขแล้วไม่น่าจะเพียงพอที่จะใช้ในวัยเกษียณ เพราะค่ายารักษาตัวเองก็น่าจะฟาดเรียบไปหมดแล้ว ทางที่ดีเราควรหาวิธีการลงทุนทางอื่น เช่น กองทุนรวม ประกันชีวิตแบบบำนาญ ฯลฯ ทำควบคู่กันไปด้วยน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีนะคะ


 

 


อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่