น้องมั่งคั่ง : พี่มั่นคงคะ...วันก่อนหนูเห็นคุณป้าข้างบ้านดูหน้าตาไม่ค่อยมีความสุข เลยเข้าไปชวนแกคุย สงสารแกจังเลยค่ะพี่

พี่มั่นคง : แกเป็นอะไรหรอครับ น้องมั่งคั่ง

น้องมั่งคั่ง : คุณป้าบอกว่าเดือนนี้ลูกยังไม่ส่งเงินมาให้เลย ลุงก็ป่วยมาสองสามวันแล้ว แต่ยังไม่อยากไปหาหมอ กลัวค่ารักษาจะแพง หนูฟังแล้วเศร้าเลยค่ะ คิดถึงว่าถ้าเป็นตัวเองแล้วจะทำยังไง (น้ำตาไหล)

โถๆๆๆ อย่าเพิ่งน้ำตาไหลไปครับน้องมั่งคั่ง วันนี้พี่มั่นคงมีเรื่องราวดีๆ เพื่อชีวิตที่มีความสุขของในวัยสูงอายุมาฝากกันครับ แต่ก่อนอื่น มาลองทบทวนกันก่อนว่า “ความสุข” นั้นเกิดจากอะไร การที่ใครคนหนึ่งจะมีความสุขได้นั้นต้องประกอบด้วยปัจจัยหลายๆ ด้าน ทั้งความคิด สุขภาพร่างกาย สังคม และจิตใจ รวมถึงการมีฐานะการเงินที่จะทำให้ดำเนินชีวิตได้อย่างเป็นสุขด้วย

การที่ผู้สูงอายุรู้สึกว่าตัวเองขาดความสุข อาจจะมีสาเหตุมาจากการขาดสิ่งต่างๆ ดังต่อไปนี้

  1. สุขภาพร่างกายที่แข็งแรง : ยิ่งอายุมากขึ้น ร่างกายก็ยิ่งเสื่อมถอยเป็นธรรมดา จากที่เคยเคลื่อนไหวสะดวกสบายก็กลายเป็นคนที่เคลื่อนไหวลำบาก และถ้ายิ่งมีปัญหาสุขภาพมากขึ้น ก็จะยิ่งส่งผลกระทบต่อจิตใจตามไปด้วยเช่นกัน
  2. สังคมที่ลดลง : ยิ่งอายุมากเท่าไร เพื่อนกินหายากกว่าเพื่อนตาย เพราะสุดท้ายเพื่อนตายไปหมด คำพูดนี้อาจจะฟังดูน่าตลก แต่มันคือเรื่องจริงของผู้สูงอายุทั้งหลาย อีกทั้งลูกหลานก็อาจจะไม่มีเวลามาใส่ใจ ทำให้เกิดความรู้สึกเหงาและหมดกำลังใจที่จะมีชีวิตอยู่
  3. ฐานะการเงิน : การขาดเงินออมหลังเกษียณ คือ ปัญหาของผู้สูงอายุจำนวนมากในสังคมไทย ทำให้ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ เพราะไม่ได้วางแผนเก็บเงินไว้ให้พอใช้ในยามเกษียณ ก่อให้เกิดความลำบากต่อฐานะการเงินของครอบครัว รวมถึงอาจจะสร้างภาระหนี้สินเพิ่มขึ้นได้

สามเรื่องที่ว่ามานี้ ล้วนมีผลต่อจิตใจของผู้สูงอายุทั้งนั้น ทำให้ความสุขที่เคยมีกลับลดน้อยลงไป การรักษาความสุขให้คงเดิม ต้องอาศัยการวางแผนเตรียมพร้อมทั้งในยามก่อนเกษียณและหลังเกษียณครับ

ในช่วงวัยก่อนเกษียณ นอกจากทำงานหารายได้เพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวันแล้ว ทุกคนควรมีการวางเป้าหมาย สำหรับวันข้างหน้าเมื่อไม่มีรายได้แล้ว ว่าต้องการใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างไร และจำเป็นต้องมีเงินรองรับเท่าไรจึงจะเพียงพอ ซึ่งอาจทำได้หลายวิธี เช่น ออมเงิน ลงทุน หรือทำประกันบำนาญ ยิ่งเริ่มวางแผนเร็วเท่าไรก็ยิ่งดี เพราะมีเวลานานกว่าในการค่อยๆ เก็บสะสม ไม่ต้องลำบากทีหลัง

สำหรับช่วงวัยเกษียณ สิ่งหนึ่งสำคัญมากคือเรื่องของสุขภาพ หากเกิดเจ็บป่วยขึ้นมา เงินที่เก็บเอาไว้ใช้อาจไม่เพียงพอต่อการรักษา ดังนั้นผู้สูงอายุจึงควรหมั่นดูแลสุขภาพ และบรรเทาภาระเรื่องค่ารักษาพยาบาลด้วยการทำประกันสุขภาพสำหรับผู้สูงวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคร้ายแรงต่างๆ ที่มักพบในผู้สูงอายุ

ในขณะเดียวกันลูกหลานเองก็ควรหมั่นดูแลทั้งสภาพใจและกายของผู้สูงอายุให้ดีด้วย หรืออาจจะซื้อประกันสุขภาพมอบให้เป็นของขวัญช่วยดูแลก็เป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่ง

สุดท้ายแล้ว สิ่งหนึ่งที่สำคัญสุดคงไม่พ้นเรื่องของการวางแผนการเงินเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนวัยเกษียณ ในรูปแบบต่างๆ ที่เหมาะสมกับตัวเอง และทยอยสะสมตั้งแต่ยังอยู่ในวัยทำงาน หรือการวางแผนป้องกันความเสี่ยงต่างๆ ที่จะทำให้เงินเกษียณเราหดหายด้วยการทำประกันชีวิต หรือเตรียมบำนาญไว้ใช้เองด้วยประกันแบบบำนาญ รวมถึงประกันสุขภาพที่ครอบคลุมสำหรับผู้สูงอายุ เมื่อหมดกังวลเรื่องเงินและสุขภาพแล้ว ด้านอื่นๆ ที่ตามมาก็พลอยจะสบายไปด้วย สามารถใช้ชีวิตสูงวัยอย่างมีความสุขได้ไม่ยากครับ

น้องมั่งคั่ง : พี่มั่นคงคะ ฟังแบบนี้แล้วทำให้หนูนึกขึ้นได้เลยค่ะว่า ถ้าเราวางแผนการเงินดี ความสุขก็จะตามมาเอง เช่นเดียวกับทุกเป้าหมายของชีวิต...เริ่มต้นที่การวางแผนการเงิน

พี่มั่นคง : ใช่แล้วจ้ะ แต่น้องมั่งคั่งต้องไม่ลืมนะจ๊ะว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดของการเตรียมพร้อมเพื่อชีวิตหลังเกษียณคือการวางเป้าหมายและเริ่มทำตั้งแต่ช่วงที่เรามีรายได้ ถ้าเริ่มเร็ว ก็เหนื่อยน้อย และต้องไม่ลืมที่จะวางแผนป้องกันความเสี่ยงเรื่องสุขภาพควบคู่กันไปด้วยนะจ๊ะ