หลังจากที่ได้ไฟล์ พอร์ต 7 สี มณี 7 แสง ไปลองใช้เป็นแนวทางในการจัดสรรพอร์ตลงทุนกันแล้ว (ใครยังไม่ดาวน์โหลดไฟล์ คลิกที่นี่!!) คิดว่าเพื่อนๆ หลายคนอาจจะมีข้อสงสัยกันบ้าง สำหรับแนวทางในการจัดสรรสินทรัพย์ต่างๆ ลงไปในโมเดลแต่ละชนิด ซึ่งโมเดลแต่ละรูปแบบก็ให้ผลตอบแทนและความเสี่ยงที่แตกต่างกัน

ในครั้งนี้และครั้งต่อๆ ไปเราจะมาชำแหละโมเดลการจัดสรรสินทรัพย์ หรือชำแหละพอร์ตฯ ให้เพื่อนๆ ได้รู้กันครับว่า แต่ละโมเดลถูกออกแบบมาเพื่ออะไร? เหมาะสำหรับนักลงทุนแบบไหน หรือ เป้าหมายการลงทุนแบบไหน?

เริ่มกันด้วยพอร์ตลงทุน 2 แบบแรก ที่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่า ไม่เหมาะกับนักลงทุนที่แสวงหาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง หรือบางคนอาจจะมีหงุดหงิดใจกับโมเดลการจัดพอร์ตฯสองแบบนี้...แต่ก็ต้องลองดูกันครับว่า ทำไมนักลงทุนบางคนต้องไม่ชอบมัน แล้วมีใครจะชอบพอร์ตฯสองแบบแรกของเราบ้างมั๊ยเนี่ยยยย? ไปหาคำตอบพร้อมกันเลย!!

DEFENSIVE MODEL

แนวความคิดของ Asset Model

Defensive model ถูกออกแบบมาเพื่อเป้าหมายในการ "รักษาเงินต้น" เป็นหลัก ซึ่งเป็นโมเดลที่มีความผันผวนน้อยที่สุด และมีความมั่นคงในผลตอบแทนมากที่สุด...แต่ผลตอบแทนก็ต่ำที่สุดเหมือนกัน เหมือนที่ผมบอกไว้ตั้งแต่แรก ถ้าใครกำลังมองหาวิธีจัดพอร์ตฯให้ได้ผลตอบแทนสูงๆ คงต้องบอกผ่านพอร์ตฯแรกนี้ไปได้เลย

มันเป็นโมเดลที่เหมาะสำหรับการรักษาเงินต้น ไม่ต้องการให้เงินต้นขาดทุน เพราะในภายภาคหน้ามีเป้าหมายในการใช้เงินก้อนนี้ในระยะเวลาอันสั้น หรือ ต้องการใช้เงินไปกับเป้าหมายการเงินที่มีความสำคัญมากๆ

นักลงทุนไม่ได้หวังผลตอบแทนที่มากมายจากการจัดสรรสินทรัพย์ประเภทนี้ แต่ก็ยังดีกว่าการนำเงินไปฝากธนาคาร ให้เงินเฟ้อกัดกินเล่นๆ ดังนั้นพอร์ตการลงทุนแบบตั้งรับสุดๆ จึงถือกำเนิดขึ้นมา

การจัดสรรสินทรัพย์ของ Asset Model

สัดส่วนใหญ่ของพอร์ต ผมเลือกใช้สินทรัพย์ความเสี่ยงไม่เกินระดับ 4 ใน RISK SPECTRUM นำมาทำ Strategic Asset Allocation (SAA) เป็นนโยบายการลงทุนหลักของโมเดลนี้ ซึ่งประกอบไปด้วย

          - เงินฝากออมทรัพย์ / กองทุนรวมตลาดเงิน สัดส่วน  20%
          - พันธบัตรรัฐบาล / กองทุนรวมพันธบัตรรัฐบาล สัดส่วน 50%
          - หุ้นกู้ภาคเอกชน / กองทุนรวมตราสารหนี้ สัดส่วน 15%
          - กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ สัดส่วน 15%

ผมใส่การลงทุนที่มีความเสี่ยงระดับ 7 ซึ่งเป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มาให้ เพื่อเพิ่มผลตอบแทน เพราะต้องการเงินปันผลและรับเพิ่มกรอบความผันผวนของผลตอบแทนได้ในระดับหนึ่ง แต่สัดส่วนหลักของพอร์ตจะอยู่ที่ พันธบัตรรัฐบาล ซึ่งถือได้ว่าเป็นการลงทุนที่มั่นคง โอกาสขาดทุนมีน้อย น้ำหนักของเงินลงทุนทั้งหมดจะอยู่ในสินทรัพย์ที่มีระดับความเสี่ยงไม่เกินระดับ 4 อยู่ถึง 85% และไม่มีการลงทุนในหุ้นสามัญหรือสินค้าโภคภัณฑ์มาเกี่ยวข้องเลย

อย่าลืมสิ!!..นี่มันพอร์ตที่เป้าหมายคือการรักษาเงินต้นนะ ผมไม่เลือกหุ้นมาก็เพราะมันมีความผันผวนค่อนข้างสูง นักลงทุนมีโอกาสขาดทุนได้เยอะ เมื่อเทียบกับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่นักลงทุนจะได้รับเงินปันผลสม่ำเสมอ แต่ความผันผวนของมันเมื่อเทียบกับหุ้นแล้วมีน้อยกว่า (แต่ไม่ได้บอกว่ากองทุนรวมอสังหาฯไม่เสี่ยงนะครับ!!)

เป้าหมายและผลตอบแทนของ Asset Model

เมื่อคำนวณผลตอบแทนที่คาดหวังของโมเดลนี้ออกมา Base Case ที่น่าจะได้ก็คือ 3.78% ต่อปีโดยเฉลี่ย ส่วนกรอบความผันผวนจะอยู่ระหว่าง 1.97% ถึง 5.59% ต่อปี ซึ่งโอกาสขาดทุนมีน้อยมาก

เมื่อมองที่ผลตอบแทน จะเห็นว่าการใช้โมเดล DEFENSIVE จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงกว่าการซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพียงอย่างเดียว (ถ้าคิดว่าเสี่ยงมากไป ก็ลองปรับลดสัดส่วนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เองได้ครับ)

ถ้านำเงิน 1 ล้านบาท ไปลงทุนด้วยโมเดลนี้ ในเดือนมีนาคม 2007 จนถึงเดือน มีนาคม 2017 (ระยะเวลา 10 ปี) เงิน 1 ล้านบาทจะกลายเป็น 1,423,401 บาท หรือได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 4.23% ต่อปี อยู่ในกรอบที่วาง และมากกว่า Base Case ที่คาดไว้

คนที่มีเป้าหมายการเงินที่สำคัญ และเป้าหมายนั้นไม่ควรเสี่ยง อย่างเช่น เก็บเงินเพื่อแต่งงานใน 2-3 ปีข้างหน้า เก็บเงินส่งลูกเรียนปริญญาโทที่ต่างประเทศในอีก 2 ปีข้างหน้า เป็นต้น จะเห็นว่าโมเดลนี้เหมาะกับเป้าหมายที่มีความสำคัญ หรือเป้าหมายที่ต้องการจะใช้เงินในระยะสั้น เพราะเงินที่นำไปลงทุนไม่สามารถรับความเสี่ยงจากการขาดทุนได้ และต้องการสภาพคล่องสูง

ผมขอย้ำอีกทีว่า “โมเดลนี้ออกแบบมาเพื่อรักษาเงินต้น” แต่ในขณะเดียวกันก็ได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าระดับเงินเฟ้อทั่วไป!!! ถ้าพิจารณาแล้วเห็นว่าเหมาะกับเป้าหมายของเพื่อนๆ ก็เอาไปปรับใช้ได้เลยครับ

CONSERVATIVE MODEL

แนวความคิดของ Asset Model

CONSERVATIVE เป็นการจัดสรรสินทรัพย์แบบ “ระมัดระวัง” แต่ขณะเดียวกันก็ไม่อนุรักษ์นิยมเท่า DEFENSIVE พอร์ตฯนี้ถูกออกแบบมา สำหรับคนที่อยากลงทุนแบบรักษาเงินต้น แต่ก็พร้อมรับความเสี่ยงที่มากขึ้นได้ เพราะต้องการผลตอบแทนที่สูงกว่าเดิม

ในไฟล์ผมเขียนว่า “ให้โอกาสคนที่อยากเสี่ยง ได้ลองแหย่ขาลงไปในหุ้นดู จะได้รู้ว่ารับความเสี่ยงจากหุ้นได้หรือไม่” เพราะโมเดลการจัดพอร์ตฯนี้ จะให้นักลงทุนนำเงินส่วนหนึ่งไปลงทุนในกองทุนรวมหุ้น และกองทุนหุ้นนั้นควรเป็นแบบ Passive Fund ที่ให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับตลาดหลักทรัพย์มากที่สุด

คนที่จะเลือกพอร์ตนี้ อาจจะยังมีความกังวลว่าจะขาดทุน อยากรักษาเงินต้นไว้ให้ได้ แต่ก็อยากได้ผลตอบแทนที่ดี หากลองเริ่มต้นด้วยโมเดลนี้ ก็จะได้รู้จักถึงความเสี่ยงทั้งในตลาดหุ้น ตราสารหนี้ และกองทุน