ผ่อนบ้านยังไงให้เงิน(เดือน) เหลือไปลงทุนต่อ?

 

หากพูดถึง ‘บ้าน’ หนึ่งชีวิตของคนเรานั้นคงจะมีบ้านได้เพียงไม่กี่หลังเท่านั้น และสิ่งแรกที่ทุกคนคิดถึงบ้านนั่นคือพื้นที่ๆทำให้เราและครอบครัว ได้พักผ่อนใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข แต่หากเราไม่วางแผนก่อนซื้อบ้านให้ดีนั้นพื้นที่ๆควรมีความสุขที่สุด อาจกลายเป็นพื้นที่ๆทุกข์ที่สุดก็ได้


แล้วจะซื้อบ้านทั้งทีเราต้องดูอะไรบ้างนะ? อย่างแรกเลยเราต้องสำรวจตัวเองให้ดีก่อน

 

1. เราซื้อเพื่ออะไร จุดประสงค์ของเราคืออะไรกันแน่?

ตั้งคำถามกับตัวเองก่อนว่า เราจะซื้อบ้านไปเพื่ออะไร ซื้อเพื่ออยู่อาศัย ซื้อเพื่อเป็นของขวัญให้พ่อแม่ ซื้อเพื่อลงทุน หรือ ซื้อเพราะความอยาก เพราะในการซื้อบ้านสักหลังนั้นอย่าลืมว่าเราต้องใช้เครดิตของเราผูกกับบ้านไปถึง20-30ปี (ถ้าผ่อนตามกำหนดชำระของธนาคาร)

 

2.จำเป็นแค่ไหน?

มาถึงข้อที่ 2 จำเป็นแค่ไหน? ถ้าจะซื้อเพราะความอยาก อยากได้ อยากมี อยากเท่ หรือ อยากมีตามคนนั้นคนนี้ แบบนี้ขอให้หยุด และดึงสติดีๆกลับเลยนะจ๊ะ ถ้าจะซื้อเป็นของขวัญให้พ่อแม่ หรือ ซื้อเพื่ออยู่อาศัย อยากแนะนำลองแย็บๆถามคุณพ่อคุณแม่ หรือ คู่ชีวิตก่อนเช่น “บ้านเริ่มเก่าแล้วนะป๊าม๊า ถ้าย้ายไปอยู่บ้านใหม่น่าจะดีนะ” หรือ “ที่รัก บ้านหลังนั้นสวยมั้ย” ถ้าคนที่เราถามมีท่าทีเห็นด้วย หรือ มีอาการปากไม่ตรงกับใจ ค่อยดูข้อต่อไป แต่ถ้าจะซื้อเพื่อลงทุน อย่าหลงรักสิ่งที่ลงทุนไปเพราะมันคือสินทรัพย์ที่ช่วยเพิ่มเงินให้คุณ สิ่งสำคัญที่สุดคือความคุ้มค่า ไม่ใช่ความสวยงามในแบบที่คุณชอบ ไม่งั้นคุณอาจจ่ายมากเกินความจำเป็นนะ แต่ถ้าอยากรู้ว่าบ้านที่ดีต้องมีอะไรบ้าง? ลองดู VDO สนุกๆ จากเพจเท่ๆอย่าง ‘เสือร้องไห้’ กันได้เลย
https://www.facebook.com/TigerCryChannel/videos/1066735706712998

 

3. สำรวจเงินในกระเป๋า!

ข้อนี้นี่สำคัญมากๆ เช็คให้แน่ใจว่าเราพร้อมแล้วจริงๆ อย่าลืมนะว่ารายได้ทั้งหมดของเราเมื่อนำมาหักลบกับหนี้แล้ว ไม่ควรเกิน 40-50% ของรายได้ทั้งหมด(แต่ถ้าให้ดีไม่ควรเกิน40%นะจ๊ะ) ดังนั้นคุณควรมีเงินฉุกเฉินสำรองไว้เท่ารายจ่ายต่อเดือนด้วยในกรณีที่ไม่คาดคิดอย่างน้อย 3-6 เดือน เพราะหลายคนมาตกม้าตายก็เพราะลืมมมม! ลืมไปว่ามีรายจ่ายยิบย่อยต่างๆ เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเดินทาง หรือ กรณีเลวร้ายสุดคือต้องออกจากงาน จนชีวิตพังได้ดื้อๆเชียวแหละ


มาถึงตรงนี้บางคนคงมีคำถามในใจว่า เอ...มันขนาดนั้นเลยหรอ? เงินเดือนแบบเราๆก็น่าจะผ่อนบ้านได้นะ

เอาล่ะ ถ้าใครมีคำถามนี้เกิดขึ้น อย่างแรกที่ต้องทำก่อนเลย คือ ตั้งสติ! เพราะหลายคนอาจเคยเจอ หรือ เคยเห็นคนที่มีปัญญาซื้อ แต่ไม่มีปัญญาผ่อน ดังนั้นเราควรวางแผนหนี้ให้ดี (กลับไปสำรวจตัวเองได้ที่บทความวางแผนหนี้ดีชีวิตมีแต่ได้)

 

เอาล่ะ ถ้ากำลังคิดว่าจะซื้อบ้านดีๆสักหลังไว้สร้างครอบครัวล่ะก็นั่นเป็นเรื่องที่ดีแน่นอนถ้าคุณพร้อม แต่พอนำรายได้หักลบรายจ่ายทั้งหมดและค่าผ่อนบ้านก็ตึงๆแล้ว มีวิธีไหนมั้ยนะที่จะทำให้เราผ่อนได้สบายขึ้น จริงๆมันมีวิธีนะ เพราะในช่วงปลายปีแบบนี้เรียกว่าเป็นข่าวดีสำหรับคนอยากมีบ้านเลยก็ว่าได้ เพราะในช่วงนี้จะมีโปรโมชั่นมากมาย ทั้ง ลด แจก แถม หลายโครงการ แต่เชื่อเถอะว่าหัวใจสำคัญสำหรับคืออยากมีบ้านจริงๆ ก็คือ อยากจ่ายให้น้อยที่สุดใช่มั้ยล่ะ งั้นจะแนะนำโปรโมชั่นดีๆ ที่จะทำให้เรามีเงิน(เดือน)เหลือ ไปลงทุน หรือ ทำอย่างอื่นได้ สัก 1 โปรโมชั่นล่ะกัน นั่นก็คือ  “3Happiness” จาก Property Perfect นั่นเอง

แล้ว 3 Happiness จาก Property Perfect มีความน่าสนใจยังไง?

  1. ดอกเบี้ย 3% 3 ปีแรก
  2. ผ่อนล้านละ 3,000 บาท/เดือน
  3. ฟรี! อีก 3 อย่าง ค่าโอน ค่าจดจำนอง ค่ามิเตอร์น้ำ-ไฟ

เรียกได้ว่าเป็นโปรโมชั่นที่หลายๆคนต้องการเพราะ ดอกเบี้ยต่ำ-ผ่อนน้อย แถม ฟรีอีกตั้ง 3 อย่าง สามารถช่วยให้เรามีสภาพทางการเงินที่คล่องมากขึ้นโดยเฉพาะ 3 ปีแรก เพราะรายได้เราอาจจะยังไม่มาก แต่เมื่อเวลาผ่านไปฐานเงินเดือนเราอาจสูงขึ้นได้ในอนาคต (แล้วหลังจาก 3 ปี ถ้าดอกเบี้ยขึ้นล่ะ ไม่ยาก ขอโปรโมชั่นธนาคารเดิมลดดอกเบี้ย ถ้าไม่ได้ก็รีไฟแนนซ์ย้ายธนาคารไปเลย อิอิ)

เอาล่ะมาดูตัวอย่างกัน หากเรามีเงินเดือน 30,000 บาท สนใจซื้อบ้านในราคา 2 ล้านบาท ผ่อน 30 ปี นั่นหมายความว่าเราผ่อนต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 6,000 บาท เมื่อเราหักลบรายจ่ายส่วนตัวออก 15,000 บาท ค่าน้ำค่าไฟอีก 2,000 บาท หมายความว่าเรายังมีเงินคงเหลือต่อเดือนอยู่ที่ 7,000 บาท ซึ่งเงินคงเหลือส่วนนี้เราสามารถแบ่งเก็บได้ เป็น 2 ส่วน ส่วนแรก 2,000 บาท ไว้ใช้สำหรับโปะเงินต้น ลดต้นลดดอก เพื่อให้จำนวนเงินที่เราผ่อนน้อยลงและผ่อนได้หมดไวขึ้นนั่นเอง หรือ จะเก็บเป็นเงินออมไว้สำรองก็ไม่เสียหาย ในส่วนที่สอง 5,000 บาท แบ่งไว้สำหรับเป็นเงินลงทุนต่อยอด หรือ ผ่อนเฟอนิเจอร์ ภายในบ้านได้ ก็ขึ้นอยู่ที่เราจะเลือกนะ ลองคิดเล่นๆว่าถ้าเรามีเงินฉุกเฉินไว้สำรองแล้ว ประมาณ 6 เดือน เราก็ค่อนข้างสบายใจได้ที่จะแบ่งเงินไว้ลงทุนได้ เช่น ถ้าเราลงทุนแบบสม่ำเสมอเดือนล่ะ 5,000 บาท ในที่ๆผลตอบแทนเฉลี่ย 4% ต่อปี ผ่านไป 30 ปี เราจะมีเงินถึง 3,499,700 บาท เลยทีเดียว ซึ่งอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะเมื่อถึงเวลานั้น บ้านก็ผ่อนหมดเร็วกว่ากำหนด เป็นยังไงล่ะได้บ้านอย่างที่ฝันแถมมีเงินเก็บเป็นก้อนไว้ใช้ได้สบายๆตอนแก่อีกต่างหาก

ดังนั้นหากเราอยากไม่พลาดโอกาสดีๆในการเป็นเจ้าของบ้านดีๆ สักหลังอย่ามองข้ามเรื่องของโปรโมชั่นเชียว ถ้าใครที่กำลังหาบ้านสักหลังและสนใจโปรโมชั่นแบบนี้อยู่ก็สามารถเข้าไปดูได้ที่ http://www.pf.co.th/2016/th/promotion/Corporate_Sep2016

 

สุดท้ายนี้คิดว่าคงจะมีคำถามเกิดขึ้นในใจ และคำถามยอดฮิตที่ตามมาก็คือจะผ่อนบ้านยังไงให้หมดเร็วๆ? ซึ่งคำตอบแบบกำปั้นทุบดินเลยก็คือ “จ่ายให้เยอะๆไงล่ะ” นี่ไม่ได้กวนนะ ลองนึกภาพตามดูนะว่า ถ้ามีคนมาถามเราว่า พี่ๆห้องน้ำไปทางไห&