ผมมีนิสัยชอบวางแผนการเงิน ตั้งเป้าไว้ว่าอยากมีอิสรภาพการเงินก่อนเกษียณ และมีครอบครัวที่อบอุ่น แต่เพิ่งตระหนักถึงความสำคัญของประกันสุขภาพ ลองมาฟังเรื่องราวของผมนะครับ

เมื่อปีที่แล้ว ผมผ่านประสบการณ์ที่สำคัญในชีวิตได้ทำหน้าที่เป็นพ่อคน หลังจากที่พยายามทุกทางมานานในที่สุดก็ถึงวันของเรา แต่ภรรยาผมตั้งท้องครั้งนี้ไม่ธรรมดาจริงๆเป็นเพศชาย 2 หญิง 1 หรือที่เรียกว่าท้องแฝด 3  ซึ่งสถิติมีโอกาสเกิดขึ้นเพียง 0.1%

สิ่งที่ต้องเตรียมรับมือคือ ท้องแฝด 3 มีค่ารักษาสูงมาก เพราะมีภาวะแทรกซ้อนต่างๆมากกว่าครรภ์ปกติ เช่น รกพันกัน เด็กน้ำหนักตัวต่างกัน มดลูกขยายตัวเกินไป ท้องแข็งถี่ก่อนกำหนด เป็นต้น โดยเคสของผม ภรรยามีอาการท้องแข็งถี่ตั้งแต่อายุครรภ์ยังน้อยและลูกคนหนึ่งมีน้ำหนักตัวน้อยกว่าอีกสองคน ทำให้ภรรยาต้องนอนให้ยาระงับท้องแข็งอยู่ที่โรงพยาบาลนานถึง 7 สัปดาห์

เช้ามืดวันหนึ่งเราได้รับข่าวร้ายที่สุดในชีวิต เราสูญเสียลูกคนที่น้ำหนักตัวน้อยไป ทำให้อีกสองคนต้องคลอดฉุกเฉินในวันเดียวกัน ซึ่งเค้าทั้งสองคนมีน้ำหนักตัวเพียง 1.5 กิโลกรัม เป็นทารกเพศชาย 1 หญิง 1 แต่หลังคลอดมีภาวะหายใจเองไม่ค่อยได้ เนื่องจากปอดยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ต้องอยู่ตู้อบห้องฉุนเฉิน NICU นานเป็นเดือนๆ กว่าจะออกมาสัมผัสโลกภายนอกได้

ปกติเคสแบบนี้มีค่ารักษาเฉียดล้าน เงินจำนวนนี้สามารถเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาลูกได้เลย สิ่งที่ผมทำคือหาประกันสุขภาพมาช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายครับ จากหลักเกือบล้านเหลือจ่ายจริงเพียงหลักหมื่นเท่านั้น โดยค่ารักษาของภรรยาใช้สิทธิ์ประกันสังคมและสิทธิ์ประกันกลุ่มของบริษัท ค่ารักษาของลูกๆใช้สิทธิ์บัตรทอง ทำให้ผมรู้ซึ้งเลยว่าประกันช่วยแบ่งเบาภาระได้จริง เมื่อลูกๆผมอายุครบ 1 ปี  ผมจึงเลือกซื้อประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายให้ลูกๆเพิ่ม เพื่อให้ครอบคลุมค่ารักษาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเพราะค่ารักษาพยาบาลในเด็กเล็กค่อนข้างสูง ซึ่งหลังทำประกันเสร็จไม่นานลูกของผมป่วยเป็นโรค RSV จากเชื้อไวรัสกำลังระบาดอยู่ในขณะนั้น ต้องนอนรักษาที่โรงพยาบาลทั้งคู่นาน 3 วันค่ารักษาราวๆ 80,000 บาท แต่ผมจ่ายจริงเพียงหลักร้อยเท่านั้น

ใครมีลูกเล็กจะรู้ว่าป่วยบ่อยจริงๆ เชื้อโรคมีอยู่ทุกที่ ป้องกันยากแม้ว่าจะฉีดวัคซีนแล้ว แม่ๆหลายคนจึงถูกแนะนำให้ซื้อประกันสุขภาพไว้อุ่นใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษา ซึ่งผมเห็นด้วย 100% ซื้อเลยครับ การเลือกซื้อประกันสุขภาพผมพิจารณาจาก ความคุ้มครองเทียบกับเงินที่จ่ายไป ความครอบคลุมโรคที่คุ้มครอง เบิกง่ายไม่ต้องสำรองเงินออกไปก่อน และชื่อเสียงของบริษัทประกัน

เนื่องจากทางอลิอันซ์ อยุธยา ออกประกันมาใหม่เลยขอแนะนำเค้าใช้ชื่อว่า 'ประกันสุขภาพ ปลดล็อค เอ็กซ์ตร้า' เป็นประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย มีลักษณะเป็นสัญญาเพิ่มเติมต้องซื้อควบคู่กับสัญญาหลัก จุดเด่นอยู่ที่ผลประโยชน์จ่ายตามจริงครับ

- กรณีผู้ป่วยใน ประกันช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ หากต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลทั้งค่าผ่าตัด ค่าเครื่องมือแพทย์ ค่าวางยาสลบ สามารถเบิกผลประโยชน์จ่ายตามจริง

- กรณีผู้ป่วยนอก ประกันช่วยค่ารักษาโรคร้าย ทั้งคีโม ฉายแสง ล้างไต กรณีอุบัติเหตุที่รักษาภายใน 24 ชม.แรก และผ่าตัดเล็ก สามารถเบิกผลประโยชน์จ่ายตามจริง

จะเห็นได้ว่าประกัน 'ประกันสุขภาพ ปลดล็อค เอ็กซ์ตร้า' นี้ให้ความคุ้มครองครอบคลุมทั้งผู้ป่วยใน และ ผู้ป่วยนอกซึ่งเป็นแบบเหมาจ่ายสบายใจกว่า ครอบคลุมกว่า ที่สำคัญคือไม่ต้องจ่ายเงินเพื่อทำประกันอุบัติเหตุเพิ่มอีกตัว เพราะครอบคลุมหมด ทำให้หมดห่วงเรื่องเจ้าตัวเล็กซุกซนไปเลยครับ ที่สำคัญวงเงินคุ้มครองสูงสุดค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับตัวอื่นๆในระดับเดียวกันครับ นอกจากนี้ยังมีให้เลือก 5 แผน ตั้งแต่วงเงินคุ้มครอง 2 ล้านจนถึง 10 ล้าน ค่าเบี้ยคร่าวๆอยู่ที่หลักหมื่นซึ่งแต่ละคนแต่ละแผนจะไม่เท่ากัน และยังมีแบบส่วนรวมจ่ายที่เหมาะกับคนที่มีสวัสดิการอยู่แล้วทำให้เบี้ยประกันถูกลงถึง 30% เลยครับ โดยประกันสุขภาพปลดล็อค เอ็กซ์ตร้า นี้เปิดกว้างรับทำตั้งแต่อายุ 1 ขวบ 1 เดือน ถึงอายุ 70 ปี ใครที่สนใจก็เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ http://www.azay.co.th/product/health-insurance/hospital-surgery-expense-ipd-accitdent-my-health-plus-extra

บทความนี้เป็น Advertorial