ตลาดคอนโดในประเทศไทยต้นปี 2559 ที่ผ่านมา แม้ว่าจำนวนโครงการใหม่เปิดพรีเซลล์ไม่ร้อนแรงเหมือนที่ผ่านมา และเน้นเจาะตลาดระดับบน อาทิเช่น 98 Wireless, Ashton Silom, Noble BE19, Whizdom Station รัชดา-ท่าพระ และ Ideo Thapra Interchange แต่ก็ยังคงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ซื้ออยู่อาศัยและนักลงทุน เพราะคอนโดทำเลดีหายากขึ้นเรื่อยๆ และรูปแบบโครงการถูกใจคนรุ่นใหม่ที่นิยมความสะดวกสบาย สำหรับนักลงทุนต้องคำนวณผลตอบแทนให้ดีเนื่องจากราคาคอนโดแพงขึ้นทุกปีเฉลี่ยปีละ 15% ซึ่งบางโครงการราคาพุ่งขึ้นแรงกว่านี้มาก ทำให้อัตราผลตอบแทนที่ได้รับจากค่าเช่าลดน้อยลงจนอาจไม่คุ้ม นักลงทุนเลยหวังผลตอบแทนจากมูลค่าคอนโดที่เพิ่มขึ้นแทน ซึ่งในระยะยาวราคาไม่สามารถเติบโตในระดับนี้ได้ตลอดไป ผมจึงอยากแนะนำให้รู้จักกับการลงทุนทางเลือกที่ยังคงเกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ครับนั่นก็คือ “การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศผ่านกองทุนรวม” ซึ่งมีข้อดีในเรื่องการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนไปในหลายภูมิภาคทั่วโลก และโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงจากอสังหาริมทรัพย์ที่ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดีจากหลายภูมิภาคทั่วโลก

วันนี้ผม Mr. Maibat เอาข่าวเปิดกองทุนใหม่ของบลจ.กรุงศรีมาฝากครับ กองทุนนี้มีชื่อว่า “กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลพร็อพเพอร์ตี้ปันผล” ตัวย่อกองทุน KF-GPROPD จะเสนอขาย IPO วันที่ 21 – 29 มีนาคม 2559 โดยความน่าสนใจอยู่ที่กองทุนนี้นำเงินไปลงทุนในกองทุนหลักมีชื่อว่า Standard Life Investments Global SICAV – Global REIT Focus Fund ที่มุ่งเน้นลงทุนในกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ (REIT) และหุ้นของบริษัทที่ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กระจายไปทั่วโลก ซึ่งกองทุนหลักเค้ามีประวัติการก่อตั้งและประสบการณ์ในอุตสาหกรรมมายาวนานกว่า 50 ปี มีมูลค่าตลาดสูงถึง 1,183 พันล้านยูโร

ผลงานที่ผ่านมากองทุนหลัก Standard Life Investments ได้รางวัลในต่างประเทศ ได้แก่ The Best Equity Sector Real Estate Holdings Global over three years จาก Lipper ในปีพ.ศ. 2555 และ The Benchmark Fund of The Year Awards ในกลุ่ม Alternative Strategies Global Real Estate capabilities ในเดือนม.ค. 58 เพราะเค้ามีปรัชญาการลงทุนที่มุ่งเน้นการมองหาโอกาสการลงทุนจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในตลาดแนวทางเดียวกับบลจ.กรุงศรี และใช้ทีมผู้จัดการกองทุนรวมถึงนักวิเคราะห์มืออาชีพกว่า 150 คนทั่วโลก สะท้อนออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรมด้วยผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของกองทุนหลักภายในระยะเวลา 1 ปีให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 9.22% ต่อปี ระยะเวลา 3 ปีให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 12.13% ต่อปี และ ระยะเวลา 5 ปีให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 10.97% ต่อปี แต่ต้องอย่าลืมว่าผลการดำเนินงานอนาคตอาจดีหรือแย่กว่านี้ได้นะครับ

มาดูกันต่ออีกสักหน่อยว่ากองทุนหลักเค้ามีอะไรอยู่ในพอร์ตการลงทุนบ้าง หากแบ่งสินทรัพย์ที่ไปลงทุนตามภูมิภาคทั่วโลกแล้วละก็ ทวีปอเมริกามากที่สุดถึงร้อยละ 52% ตามมาด้วยทวีปเอเชีย 27% และทวีปยุโรป 18% เพราะมองเห็นโอกาสแตกต่างกันและเป็นการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนด้วย และหากแบ่งตามประเภทธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็มีความหลากหลาย เช่น ที่อยู่อาศัย ศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน อุตสาหกรรม และโกดังเก็บสินค้า ฯลฯ ลองดูได้จาก 10 อันดับหลักทรัพย์ที่กองทุนหลักถือครองมากที่สุด

ภาพหน้าตาอสังหาริมทรัพย์ที่กองทุนหลักเข้าไปลงทุนทั้งในรูปแบบ REIT และหุ้นของบริษัทที่ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยข้อมูลที่ผมได้รับในงานสัมมนาเปิดกองจาก Mr.Luke Powell ตำแหน่ง Investment Director , Real Estate, Standard Life Investments กล่าวว่าสัดส่วนการลงทุนแบบ REIT อยู่ที่ประมาณ 75% และหุ้นอยู่ที่ประมาณ 25% ซึ่งอนาคตอาจเปลี่ยนแปลงให้เหมาะสมกับสถานการณ์การลงทุน

ตัวอย่างอสังหาริมทรัพย์ของแต่ล่ะหลักทรัพย์ในพอร์ตการลงทุนที่น่าสนใจ

เหตุผล 3 ข้อสำหรับสนับสนุนลงทุนในกองทุน KF-GPROPD ในฐานะเป็นทางเลือกการลงทุน อาจแบ่งเงินบางส่วนกระจายการลงทุนมารูปแบบนี้บ้าง

  • ข้อแรก ขยายโอกาสการลงทุนใน REIT และหุ้นอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยไปสู่ทั่วโลก ซึ่งกระจายไปในหลายประเภทธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วย  
  • ข้อสอง ระดับราคาของ REIT ในประเทศไทยปัจจุบันปรับตัวสูงขึ้น แต่ค่าเฉลี่ยระดับของ REIT ในหลายภูมิภาคทั่วโลกยังคงต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง  
  • ข้อสาม สร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอจากรูปแบบกระแสเงินสดจากค่าเช่าที่กองทุนหลักถือครอง อีกทั้งยังมีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากระดับราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย

สุดท้ายนี้เป็นตารางสรุปสาระสำคัญของกองทุน KF-GPROPD โดยมีจุดที่ควรพิจารณาตรงนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน กองนี้ใช้ดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนนะครับเพราะทางบลจ.กรุงศรีเห็นว่ากองทุนหลักมีการกระจายออกไปในหลายภูมิภาคทั่วโลกแล้วซึ่งช่วยลดความผันผวนของค่าเงินได้ในระดับนึง และอีกจุดที่ควรพิจารณาตรงค่าธรรมเนียมแรกเข้าเก็บจริงที่ 1.5% และค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากกองทุนทั้งหมดเก็บจริงที่ 0.93% ต่อปี จึงเหมาะกับนักลงทุนระยะยาวเกิน 1 ปี ซื้อๆขายๆไม่คุ้มครับ สำหรับท่านที่สนใจโทรไปสอบถามได้ที่ 02-657-5757 หรือเข้าไปดูในเว็บ www.krungsriasset.com

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน