ออมหุ้นแล้วขาดทุน ออมกองทุนดีกว่ามั้ย? จะว่าไปแล้วในปัจจุบันการออมนั้นกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันที่สำคัญของคนรุ่นใหม่ หลายคนตระหนักดีว่านำเงินออมที่เหลือในแต่ละเดือนไปฝากไว้กับธนาคารนั้น อาจจะไม่เพียงพอต่อชีวิตในอนาคตไม่ว่าจะเป็นการสร้างครอบครัว ซื้อทรัพย์สิน ตลอดจนการสร้างไลฟ์สไตล์อย่างที่เราต้องการในยามเกษียณ อีกทั้งสมัยนี้ดอกเบี้ยเงินฝากเองก็น้อยมาก จำนวนเงินที่เราฝากเอาไว้นั้นก็ไม่สามารถงอกเงยได้ทันราคาข้าวของที่แพงขึ้นในแต่ละวันอย่างต่อเนื่องได้

ทางออกของคนรุ่นใหม่จึงมองหาแหล่งลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าเดิม และนำเงินออมที่ตัวเองจัดสรรมาลงทุนเพื่อสร้างความมั่งคั่งหรือผลกำไรที่มากขึ้น เช่น การออมหุ้นด้วยการซื้ออย่างเป็นประจำ หรือการลงทุนในหุ้นที่มีศักยภาพดีตามจัดหว่ะของราคาที่น่าสนใจ แต่ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในแนวไหนก็ตาม หุ้นคือเครื่องมือที่มีความเสี่ยงสูง หากเราใช้อย่างไม่เข้าใจ แทนที่เราจะสร้างความมั่งคั่งได้กลับกลายเป็นการนำเงินมาสูญเสียความมั่งคั่งและทำให้สถานะทางการเงินเราแย่กว่าเดิม

เมื่อเป็นเช่นนี้ หากเรามองว่าหุ้นนั้นมีความเสี่ยงและอยากหาใครซักคนมาช่วยสร้างความมั่งคั่ง การออมในกองทุนรวมนั้นจึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันเพราะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เราสามารถซื้อหุ้นได้โดยที่เราไม่ต้องมาลงทุนเองแต่มีผู้เชี่ยวชาญมาคอยจัดการให้

มาดูข้อดีของการออมในกองทุนรวมกันว่ามีอะไรบ้าง?

1. มีผู้เชี่ยวชาญช่วยในการสร้างความมั่งคั่ง

ถ้าเป็นหุ้นแล้วเราจะต้องดำเนินการเองทุกอย่าง ตั้งแต่การวิเคราะห์ตั้งแต่ภาพใหญ่ของเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม จนถึงภาพพื้นฐานของบริษัททั้งในแง่คุณภาพของกิจการ ตัวเลขการเติบโตและสร้างผลกำไร รวมทั้งการประเมินมูลค่าที่ควรซื้อ หรือการกำหนดกลยุทธ์ต่างๆเพื่อให้สามารถซื้อหุ้นได้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด แต่ในส่วนของกองทุนรวมนั้น หน้าที่ดังกล่าวจะเป็นของ ผู้จัดการกองทุน ที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายและมีประสบการณ์ในการลงทุน เราจึงสามารถไว้วางใจได้ ซึ่งการออมในกองทุนนี้เหมาะสมกับนักลงทุนมือใหม่ที่อยากลงทุนแต่ยังไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มอย่างไร

2. เลือกออมได้ตามความเสี่ยงที่เหมาะสม

สิ่งที่เราต้องเข้าใจก่อนก็คือนักลงทุนแต่ละคนสามารถรับความเสี่ยงได้ไม่เท่ากัน บางคนรับการขาดทุนได้มาก บางคนรับการขาดทุนไม่ได้เลย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนนั้นจึงสร้างทางเลือกในการลงทุนหลายๆแบบเพื่อนักลงทุนทุกคน โดยก่อนที่เราจะซื้อกองทุน เจ้าหน้าที่จะให้เรากรอกแบบประเมินความเสี่ยง ซึ่งผลประเมินนั้นจะทำให้เราทราบว่า เราเป็นนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับใด เพื่อเป็นส่วนประกอบในการให้คำแนะนำกองทุนที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่รับได้

3. สามารถสร้างวินัยในการออมได้ด้วยเงินไม่มาก

การลงทุนจะประสบความสำเร็จได้ ปัจจัยที่สำคัญที่จะไปสู่เป้าหมายทางการเงินนั้นก็คือเรื่องของวินัยทางการเงิน การออมในกองทุนรวมนั้นมีระบบการซื้อแบบอัตโนมัติ ซึ่งนักลงทุนสามารถหักเงินในบัญชีธนาคารไปซื้อหน่วยลงทุนได้ทุกเดือนเรียกว่าการลงทุนแบบ DCA โดยในแต่ละครั้งในการซื้อสามารถเริ่มต้นด้วยจำนวนเงินที่ไม่มาก บางกองทุนไม่มีจำนวนเงินขั้นต่ำในการลงทุน บางกองทุนเริ่มต้นที่ 1,000 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ทุกคนสามารถออมได้อย่างไม่ยากในแต่ละเดือนและสามารถปรับเปลี่ยนเงินให้เพิ่มขึ้นตามความสามารถในการออม การออมแบบนี้จะเป็นการสร้างวินัยในการออมให้กับตัวเอง

4. กองทุนรวม RMF และ LTF สามารถลดหย่อนภาษีได้

ข้อดีของการออมในกองทุนรวมนั้นคือในกองทุนประเภท RMF และ LTF นั้นสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร ซึ่งหากเราเป็นผู้ที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานั้นย่อมได้ประโยชน์เป็นอย่างมาก เพราะนอกเหนือจากการจ่ายภาษีที่น้อยลงแล้ว การออมในกองทุนลักษณะนี้ยังสามารถสร้างผลตอบแทนให้เราในระยะยาวได้อีกด้วย ในขณะเดียวกันการออมในหุ้นจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี

จะเห็นได้ว่า การออมในกองทุนรวมนั้นนอกจากจะมีผู้จัดการกองทุนมาช่วยบริหารเงินทองของเราให้เกิดความมั่งคังโดยที่เราไม่ต้องเลือกหุ้นให้ปวดหัวด้วยตัวเองล้ว กองทุนรวมยังมีข้อดีอีกหลายอย่างไม่ว่าจะมีความหลากหลายให้เราได้เลือกลงทุนตามความเสี่ยงของเรา เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราออมอย่างมีวินัยไปจนถึงเป้าหมายและในกองทุนรวมประเภท RMF และ LTF ยังสามารถช่วยให้เราสร้างความมั่งคั่งพร้อมๆกับการลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย