หนึ่งในคำถามที่ผมพบเจอบ่อยที่สุดในเรื่องประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit Link : ยูนิต ลิงค์) ก็คือ

"จะซื้อยูนิตลิงค์ไปเลย หรือจะไปแยกซื้อเป็นประกันชีวิต กับกองทุนรวมแยกต่างหาก ดีกว่ากัน?"

ก่อนอื่น ผมอยากให้ทุกคนศึกษารายละเอียดของยูนิตลิงค์ให้ดีก่อน จะบทความนี้
"เจาะลึก ยูนิตลิงค์ : ประกันชีวิตควบการลงทุน มีจุดเด่น จุดด้อยอย่างไร?"

คำตอบตรงๆสำหรับผมเลยก็คือ "ไม่มีอย่างไหน ดีกว่ากันทุกด้านอย่างชัดเจน ขึ้นอยู่กับความต้องการของเรา" ครับ

ดังนั้น เราจึงต้องถามคำถาม 2 ข้อนี้กับตัวเองก่อน เพื่อสำรวจว่า จริงๆแล้วเรามีความจำเป็นด้านไหน หรือต้องการอะไร เราถึงจะสามารถตอบตัวเองได้ครับ ว่าซื้อยูนิต ลิงค์ หรือซื้อประกัน + กองทุน จะเหมาะกับเรามากกว่ากัน

1. เรามีความจำเป็นต้องทำประกันชีวิต ไปพร้อมๆกับการลงทุนเพื่อเป้าหมายการเงินรึเปล่า?

ถ้าเราสำรวจตัวเองแล้วพบว่า จำเป็นต้องทำประกันชีวิต (เพราะมีภาระเลี้ยงดูคนอื่น หรือมีภาระหนี้สิน จึงต้องการการคุ้มครองชีวิต) และอยากใช้การลงทุน เพื่อให้เงินเติบโต ให้บรรลุเป้าหมายการเงินที่ตั้งไว้ (เช่น เกษียณ, การศึกษาบุตร) อันนี้ก็ผ่านสเต็ปแรกครับ จากนั้นเราค่อยมาเลือกอีกทีว่าเราจะใช้เป็น ประกันควบการลงทุน หรือประกันชีวิตแบบเน้นความคุ้มครองชีวิต + ลงทุนในกองทุนรวมแยกกันดี (ตามข้อ 2.)

**แต่ ถ้าเราสำรวจตัวเองแล้วพบว่า ไม่มีความจำเป็นต้องทำประกันชีวิต (เพราะไม่มีภาระเลี้ยงดูใคร และไม่มีภาระหนี้สิน) แต่อยากได้การลงทุน แบบนี้ตอบได้เลยครับว่า ไม่ควรซื้อยูนิต ลิงค์ แน่ๆ เนื่องจาก ถ้าซื้อยูนิตลิงค์เพราะเหตุผลของการลงทุนอย่างเดียว โดยไม่ได้อยากจะได้ทุนประกันชีวิต ก็ควรจะไปลงทุนในกองทุนรวมโดยตรงเลยจะดีกว่า เพราะ

1) การลงทุนผ่านยูนิตลิงค์ ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการบริหารจัดการรายปี และค่าใช้จ่ายในการทำประกัน อีกต่อหนึ่ง

โดยที่กองทุนรวมที่ยูนิตลิงค์เลือกมาลงทุน ก็มีการคิดค่าธรรมเนียมการบริหารการลงทุนของกองทุนเองจากบลจ.นั้นๆอยู่แล้ว เท่ากับว่าเราจะโดนค่าธรรมเนียม 2 เด้ง ซึ่งจะทำให้ผลตอบแทนสุทธิจากการลงทุน ต่ำกว่าลงทุนในกองทุนรวมโดยตรง (โดยเฉลี่ยจะต่ำกว่าประมาณ 2% กว่าๆต่อปี ซึ่งในระยะยาวแล้ว จะทำให้เงินโตต่างกันมหาศาล) ทั้งๆที่ต้องรับความเสี่ยงเท่ากัน (ในกรณีที่เลือกกองทุนเหมือนกัน ทำ DCA (ซื้อเท่าๆกันทุกเดือน) และ Rebalancing (ปรับสมดุลพอร์ต) เหมือนกันเป๊ะ) ดังนั้น ถ้ามองในแง่ของผลตอบแทนอย่างเดียว ลงทุนในกองทุนรวมโดยตรง คุ้มค่ากว่าลงทุนผ่านยูนิตลิงค์แน่ๆครับ

2) การลงทุนผ่านยูนิตลิงค์ มีกองทุนให้เลือกจำกัด

แต่ถ้าเราไปซื้อกองทุนเองโดยตรง สามารถเลือกกองไหนก็ได้ ประเภทไหนก็ได้ ตามความต้องการของเราเลย

3) การลงทุนผ่านยูนิตลิงค์ สามารถลดหย่อนภาษีได้เฉพาะส่วนที่เป็นค่าใช้จ่ายในการทำประกันชีวิต

(ไม่เท่ากับเบี้ยประกันที่เราจ่ายไปทั้งหมด) แต่ถ้าลงทุนในกองทุนรวมอย่าง RMF หรือ LTF เราสามารถลดหย่อนภาษีได้มากกว่า เพราะลดหย่อนได้เต็มๆของเงินที่ลงทุนทั้งหมดเลย (ถ้าจำนวนเงินลงทุนเทียบเท่ากับจำนวนเบี้ยรายปีที่จ่ายในยูนิตลิงค์)

4) ระบบอัตโนมัติในการลงทุนที่จะได้ในการซื้อยูนิตลิงค์

อย่างการทำ DCA (การนำเบี้ยรายปี ส่วนที่เป็นเงินลงทุน ไปทยอยลงทุนในกองทุนที่เลือก ทุกเดือน เดือนละเท่าๆกัน ตามสัดส่วนการลงทุนที่กำหนด โดยอัตโนมัติ) และ Auto Rebalancing (การปรับสมดุลพอร์ตให้อัตโนมัติ เมื่อสัดส่วนการลงทุนในแต่ละกองทุนเปลี่ยนไปจากเดิมที่กำหนดไว้ตอนแรก ให้กลับมาเป็นสัดส่วนเดิม เพื่อควบคุมความเสี่ยง) แลกกับค่าธรรมเนียมในการบริหารจัดการที่บริษัทประกันจะชาร์จเราเพิ่มอีกปีละประมาณ 3% ผมมองว่าไม่ค่อยคุ้ม เพราะทั้ง DCA และ Rebalancing เป็นสิ่งที่เราสามารถทำเองได้ง่ายๆ หากเราจัดพอร์ตลงทุนในกองทุนรวมเอง โดยที่เราแทบไม่ต้องใช้ความรู้เพิ่มเติมอะไรมากมายเลย (ต่างจากการปรับสัดส่วนการลงทุนตามภาวะตลาด ซึ่งต้องใช้ทักษะ ความรู้ และประสบการณ์มากกว่า)

**เพิ่มเติม เคยมีตัวแทนบางคนให้เหตุผลว่า การลงทุนในกองทุนรวมนั้นๆโดยตรงด้วยตัวเอง เสี่ยงกว่าการลงทุนผ่านยูนิตลิงค์ (ที่ลงทุนในกองทุนเดียวกัน) เพราะมูลค่าเงินลงทุนจากยูนิตลิงค์ของบริษัทประกันในกองทุนนั้นสูงมากๆ และบริษัทประกันมีข้อมูลวงในที่รับรู้รวดเร็วกว่าคนทั่วไป เพราะมีการทำ company visit กับบริษัทที่กองทุนนั้นๆไปลงทุนอยู่เสมอ ทำให้เมื่อกำลังจะเกิดวิกฤติ บริษัทประกันจะไหวตัว โดยหอบเงินหนีจากกองทุนนั้น ได้เร็วกว่าคนทั่วไป จึงสามารถหลีกเลี่ยงผลการขาดทุนได้มากกว่า ขณะที่คนทั่วไปที่ไปลงทุนในกองทุนเองโดยตรงจะเจอผลการขาดทุนอย่างหนัก เพราะมูลค่าเงินลงทุนในกองทุนนั้นจะลดต่ำลงมาก (จากการอพยพเงินหนีของบริษัทประกัน) เลยจะขาดทุนมากกว่า

ข้อความดังกล่าว ผมมองว่าไม่ค่อยสมเหตุผลเท่าไหร่นัก เพราะปัจจุบันข้อมูลข่าวสารแพร่กระจายได้ง่ายและเร็วขึ้น แทบทุกคนจะรับรู้ข่าวสารต่างๆแทบจะพร้อมกัน ไม่มีใครรู้ลึกมากกว่าใครอย่างชัดเจน (นอกจากคนในบริษัทที่ออกหุ้นเอง) ดังนั้นโอกาสที่บริษัทประกันจะรู้ข้อมูลก่อนคนทั่วไปจะเป็นไปได้ยาก และต่อให้เกิดวิกฤติจริง ผู้จัดการกองทุนรวมจะต้องหาวิธีบริหารจัดการการลงทุนเองอยู่แล้ว และบริษัทประกันคงไม่ตื่นตระหนกถึงขนาดถอนเงินลงทุนทั้งหมดหนีกองทุน (ที่บริษัทประกันอุตส่าห์คัดเลือกมาแล้วเป็นอย่างดี) หรือเปลี่ยนไปใช้กองทุนอื่น อย่างแน่นอน (เพราะถ้าเกิดวิกฤติจริง จะกองไหนก็ได้รับผลขาดทุนเหมือนกันทุกกองอยู่แล้ว) ดังนั้น อย่าหลงเชื่อกับสิ่งที่ตัวแทนบางคนนำมาพูด แบบไม่ได้รู้จริง เพื่อให้เรากลัวจะต้องไปลงทุนเองโดยตรงเลยครับ

2. เราต้องการจุดเด่นอะไรของประกันชีวิตแต่ละแบบ?

เมื่อเรารู้ตัวแล้วว่า เราจำเป็นต้องทำประกันชีวิต ไปพร้อมๆกับการลงทุนด้วย ทีนี้เราก็ต้องมาดูจุดเด่นจุดด้อยของประกันชีวิตแต่ละประเภทกันแล้วครับว่าคืออะไร แล้วเมื่อเทียบจุดเด่นจุดด้อยแล้ว เราคิดว่ã