เชื่อว่าคุณผู้อ่านหลายๆท่าน โดยเฉพาะท่านที่เป็นผู้ชาย ส่วนใหญ่น่าจะเป็นคอฟุตบอล (เช่นเดียวกับผม 555) หรืออย่างน้อยก็คงเคยดูฟุตบอลมาไม่มากก็น้อย ซึ่งในเกมฟุตบอลเราก็จะพบว่ามีผู้เล่นอยู่หลายตำแหน่ง ตั้งแต่ผู้รักษาประตู - กองหลัง - กองกลาง - กองหน้า แต่ละตำแหน่งก็มีบทบาทหน้าที่แตกต่างกันออกไป

ผู้รักษาประตู = ปราการด่านสุดท้าย ที่จะปกป้องทีมไม่ให้เสียประตู เพื่อไม่ให้ทีมแพ้ 

กองหลัง = คุ้มกันเกมรุกของคู่แข่ง 

กองกลาง = ช่วยเกมรับ สกัดเกมรุกของคู่แข่ง รวมถึง ช่วยเติมเกมรุก สนับสนุนการทำประตูของกองหน้า

กองหน้า = ทำประตู เพื่อช่วยให้ทีมชนะ ประสบความสำเร็จ

จากแนวคิดการจัดวางตำแหน่งของผู้เล่นในเกมฟุตบอลดังกล่าว จะพบว่า ถ้าเรามองดีๆ เราสามารถเอามาประยุกต์กับการวางแผนการเงิน หรือวางแผนการลงทุนได้ ซึ่งอาจจะสามารถช่วยให้เราเข้าใจการลงทุนมากขึ้น หรือแม้แต่ช่วยให้เรามีโอกาสประสบความสำเร็จในการลงทุนมากขึ้นก็ได้นะครับ!

เอาล่ะ! ลองไปดูกันดีกว่า ว่าเราจะสามารถเอาแนวคิดจากฟุตบอลมาใชักับการเงินกันยังไงได้บ้าง!


"สินทรัพย์แต่ละประเภท ก็เหมือนผู้เล่นแต่ละตำแหน่ง"

อย่างที่เราทราบว่า สินทรัพย์ทางการเงินมีอยู่มากมายหลายประเภท เช่น ประกัน, เงินฝาก, พันธบัตร, ตราสารหนี้, หุ้นกู้, หุ้นสามัญ, ทองคำ, อสังหา, ฯลฯ แต่ละประเภทก็มีลักษณะและมีจุดประสงค์เอาไว้ใช้งานทางการเงิน การลงทุนที่แตกต่างกัน ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับแต่ละตำแหน่งในเกมฟุตบอล ก็อาจจะสามารถเปรียบเทียบได้คร่าวๆดังนี้

ประกัน (ชีวิต, สุขภาพ, อุบัติเหตุ, ทรัพย์สิน) = ผู้รักษาประตู

ประกัน ทำหน้าที่คุ้มครองความเสี่ยงให้ชีวิตและทรัพย์สินของเรา การมีประกันติดตัวไว้ ก็เสมือนมีผู้รักษาประตูคอยปกปักรักษาสินทรัพย์สินเงินทองของเราอยู่ ไม่ให้เสียหายจากการโจมตีของเหตุไม่คาดฝัน หรือความเสี่ยง ดังนั้น ใครที่ไม่มีการวางแผนคุ้มครองความเสี่ยง ก็คงเหมือนทีมฟุตบอลที่ไม่มีผู้รักษาประตู หากบุกเพลินๆแล้วพลาดพลั้งถูกตัดบอลได้ ก็มีสิทธิ์ถูกยิงประตูจนพรุน พ่ายแพ้ไปได้อย่างง่ายดาย

เงินฝาก (ออมทรัพย์, ประจำ) พันธบัตร/ตราสารหนี้ระยะสั้น กองทุนรวมตลาดเงิน = กองหลัง

เงินฝาก หรือตราสารหนี้ระยะสั้นพวกนี้ นอกจากมีไว้เพื่อเป็นเงินสภาพคล่องไว้ใช้จ่ายแล้ว ยังมีหน้าที่เป็นเงินออมระยะสั้นเผื่อฉุกเฉิน สำหรับรายจ่ายที่โผล่มาแบบไม่คาดฝัน (เช่น ตกงาน ค่ารักษา เจ็บป่วยเล็กๆน้อยๆ ซื้อของใช้ที่จำเป็น) เปรียบเทียบแล้วก็คงจะเหมือนกองหลังที่ทำหน้าที่ป้องกันการโจมตีจากผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม (ค่าใช้จ่ายประจำ, ค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดฝันต่างๆ ที่ประดังประเดเข้ามา) ที่ช่วยในเกมรับ ซัพพอร์ตการเงินให้เราอุ่นใจ ว่าการเงินของเราจะไม่พัง หรือพ่ายแพ้ได้ง่ายๆ

ตราสารหนี้ระยะยาว / ตราสารหนี้ต่างประเทศ = กองกลาง

ตราสารหนี้ระยะยาว มีผลตอบแทนปานกลาง (3-4% ต่อปี) และมีความเสี่ยงไม่สูงนัก (ถ้าเป็นหุ้นกู้ เอกชน ก็ขึ้นอยู่กับเครดิตความน่าเชื่อถือของบริษัทด้วย)  สามารถใช้งานได้ทั้งเป็นเงินเก็บสำรองเผื่อฉุกเฉินในระยะปานกลาง ตั้งแต่ 1-3 ปี หรือหากจะใช้เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้สูงขึ้น จากแค่ฝากเงินทั่วไป ก็อาจจะเลือกตราสารหนี้ต่างประเทศ ที่คาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ยได้ประมาณ 4-6% ต่อปี เปรียบเสมือนกองกลางของทีม ที่ทำหน้าที่ช่วยทีมทั้งรุกและรับ ถ้าอยากได้มิดฟิลด์ตัวรับมาช่วยเกมรับ สร้างความมั่นคงอุ่นใจให้กับทีม (พอร์ตเรา) มากขึ้น ก็เลือกตราสารหนี้ระยะยาวของไทย แต่ถ้าอยากได้มิดฟิลด์ตัวรุกที่มาช่วยซัพพอร์ตเกมรุก เพิ่มผลตอบแทนให้พอร์ตเราสูงขึ้นหน่อย ก็เลือกตราสารหนี้ต่างประเทศ ก็จะช่วยให้เรามีโอกาสทำประตู (ได้กำไร) สูงขึ้น

ตราสารทุน (หุ้น) = กองหน้า

หน้าที่ของหุ้นในพอร์ตการลงทุน คือเป็นกำลังหลักในการสร้างผลตอบแทนที่สูงที่สุด เพื่อให้เงินทุนในพอร์ตงอกเงยเติบโตในระยะยาว เปรียบเสมือนกองหน้าที่ทำหน้าที่ยิงประตู เพื่อช่วยให้ทีมได้รับชัยชนะ (บรรลุเป้าหมายการเงินที่ตั้งไว้)

สินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆ (ทอง, อสังหาริมทรัพย์, ตราสารอนุพันธ์ ฯลฯ) = ตัวสำรอง, ผู้เล่นตัวโจ๊กเกอร์

สินทรัพย์ทางเลือกเหล่านี้อาจจะเลือกมาใส่ไว้ในพอร์ตการลงทุนของเราตามสถานการณ์และความจำเป็น หรือใช้เป็นทางเลือกเสริมในการสร้างผลตอบแทนก็ได้ เช่น ค่าเช่าจากอสังหา (หรือราคาที่เพิ่มขึ้นจากกองทุนอสังหา) มีทองคำ เอาไว้ถ่วงพอร์ต กระจายความเสี่ยงในพอร์ต (ช่วงที่หุ้นตก ราคาทองมักจะขึ้น) เป็นต้น เปรียบเทียบได้กับผู้เล่นตัวสำรองที่เราอาจจะเปลี่ยนตัวลงมาตามสถานการณ์ในเกมขณะนั้น ว่าจะต้องการเกมรับ หรือเกมรุก หรืออาจจะเป็นผู้เล่นแบบโจ๊กเกอร์ ที่ลงมาสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับเกมได้ บางครั้งทีมอาจจะต้องมีผู้เล่นแบบนี้เอาไว้บ้างเพื่อสร้างความแตกต่างยามจำเป็น


"วางแผนให้เหมาะสมกับเป้าหมายที่ต้องการ ทีมต้องมีความสมดุล"

ในเกมฟุตบอล เวลาจัดนักเตะลงสนาม ต้องให้แต่ละตำแหน่งมีความสมดุล ทั้งกองหลัง กองกลาง กองหน้า ถ้าหากเราใส่แต่กองหลังลงไปทั้ง 11 คน ทีมคงไม่มีวันชนะ เพราะไม่มีกองหน้าไว้ทำประตู ก็เหมือนกับการที่ในพอร์ตของเรามีแต่เก็บเงินไว้ในบัญชีเงินฝาก มีความปลอดภัยสูงก็จริง แต่ผลตอบแทนก็ต่ำเตี้ยติดดิน โอกาสจะบรรลุเป้าหมายในอนาคตที่ต้องการก็เป็นไปได้ยาก หรือถ้าเราใส่แต่กองหน้าลงไปทั้ง 11 คน อาจจะมีโอกาสทำประตูได้เยอะ แต่ถ้าโดนตัดบอลสวนกลับที โอกาสที่จะเสียประตูแล้วแพ้ไปเลยก็มีสูง เพราะไม่มีเกมรับ ไม่มีผู้รักษาประตูไว้คอยป้องกันประตู ก็เหมือนกับการที่เราเอาแต่เงินเก็บทั้งหมดไปลงทุนในหุ้นที่มีความเสี่ยงสูง เวลาตลาดดีอาจจะได้กำไรเยอะ แต่เวลาขาดทุน ก็อาจจะเป็นอันตรายถ้าเราไม่มีเงินเก็บสำรองเผื่อฉุกเฉินเลย หรือไม่มีประกันไว้รองรับความเสี่ยง หากเกิดเรื่องไม่คาดฝัน ก็อาจจะทำให้เราต้องสูญเสียเงินลงทุนเพ