สวัสดีครับ กลับมาเจอกันแบบนี้ทุกสัปดาห์กับผม อัศวินกองทุน ผู้ที่จะมาบอกแนวทางการลงทุนและกลยุทธ์ในการจัดพอร์ตให้กับคุณครับผม

ภาพรวมของตลาด

หลายคนคงเห็นว่า ตลาดหุ้นในช่วงที่ผ่านมามีความผันผวนมาก ซึ่งผมคาดว่าเกิดจากความกังวลต่อธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ขึ้นดอกเบี้ยและทรัมป์ที่เริ่มส่งสัญญาณนโยบายกีดกันการค้า ซึ่งเป็นประเด็นที่ยังคงต้องจับตากันอย่างใกล้ชิด แต่ขอให้เชื่อเถอะครับว่าตลาดโดยรวมนั้นยังน่าสนใจอยู่ เรามาค่อยๆ ดูกลยุทธ์การลงทุนในสัปดาห์นี้ไปพร้อมๆ กันครับ

กลยุทธ์ลงทุนในตลาดตราสารทุน

ตลาดหุ้นอินเดีย เนื่องจากความเสี่ยงนโยบายการจัดเก็บภาษีจากกำไรจากการขายหุ้น และความเสี่ยงที่ MSCI จะนำอินเดียออกจากการคำนวณ Benchmark หลังจากที่อินเดียไม่ยินยอมที่จะเปิดเผยข้อมูลการซื้อขาย ประกอบกับดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อของเดือนล่าสุดออกมาอ่อนตัวลง จากทุกอย่างที่เป็นเหตุเป็นผลแบบนี้ ผมแนะนำให้ชะลอลงทุนในหุ้นอินเดียกันก่อนครับ

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จากความกังวลต่อผลกระทบของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ใช้มาตรการการกีดกันทางการค้าซึ่งอาจจะนำมาถึงสงครามทางการค้าระหว่างประเทศได้ และการใช้นโยบายการเงินที่รัดกุมจากตัวเลขเงินเฟ้อที่มีโอกาสเร่งตัว ทำให้เกิดความกดดันต่อตลาดหุ้นในระยะนี้ ฟังดูแล้วเหมือนทิศทางจะไม่ค่อยดีเท่าไร ดังนั้นผมขอแนะนำให้ชะลอการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ เช่นเดียวกันครับ

ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เนื่องจากมูลค่าของตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับลงมาในระดับที่น่าสนใจ ขณะที่นโยบายการเงินของ BOJ ยังมีทิศทางผ่อนคลายต่อไป หลังจากนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นสนับสนุนให้นาย Haruhiko Kuroda ดำรงตำแหน่งเป็นประธาน BOJ อีกสมัยหนึ่ง จากสถานการณ์ล่าสุดตรงนี้ ถือเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะหาจังหวะซื้อขายหุ้นญี่ปุ่นครับ

ตลาดหุ้นเกิดใหม่ โดยภาพรวมแล้วเนื่องจากตลาดหุ้นเกิดใหม่ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวดีขึ้น ช่วยสนับสนุนผลประกอบการบริษัท ขณะที่ทิศทางค่าเงินดอลลาร์ที่ยังคงอ่อนค่าจะช่วยสนับสนุน fund flow ให้เข้าลงทุนในตลาดหุ้นเกิดใหม่มากขึ้นด้วยครับ ดังนั้นถ้ามีโอกาส หาจังหวะทยอยสะสมตลาดหุ้นเกิดใหม่กันนะครับ

หุ้น Global Population Trend  ตอนนี้เป็นอีกโอกาสหนึ่งที่จะทยอยสะสมหุ้น Global Population Trend เนื่องจากหุ้นในกลุ่มนี้จะได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากรโลก ทั้งการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากร การขยายตัวของชนชั้นกลาง และการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้สูงวัย ดังนั้นในอนาคตกลุ่มนี้กำลังจะมาแน่นอนครับ ดังนั้นถ้ามีโอกาสลองให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มนี้มากขึ้นนะครับ

หุ้น Global Digital  เนื่องจากหุ้นในกลุ่มนี้เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่จะได้ประโยชน์มากที่สุดจากการปฏิรูปนโยบายภาษีสหรัฐฯ และอุตสาหกรรมนี้เป็นอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มขยายตัวสูง จากแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงรสนิยมของผู้บริโภคที่ใช้อินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งอย่างไรก็ตามผมคงต้องบอกว่ามาแน่ๆ ในอนาคตครับ ดังนั้นถ้าจะให้ดีหาจังหวะทยอยสะสมหุ้นกลุ่มนี้ด้วยนะครับ

กลยุทธ์ลงทุนในตลาดตราสารหนี้

ตราสารหนี้ต่างประเทศ กลุ่มนี้เน้นลงทุนตราสารหนี้บริษัทเอกชนประเภท High Yield สหรัฐฯ และ หุ้นกู้เอกชนที่มีอายุการลงทุนสั้นๆ ครับ เนื่องจากพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวปรับขึ้นมาค่อนข้างเยอะ ขณะที่ตลาดคาดการณ์ FED ขึ้นดอกเบี้ยเดือนมีนาคมไว้แล้ว 100%

ตราสารหนี้ไทย ผมแนะนำให้พยายามกระจายการลงทุนส่วนหนึ่งในหุ้นกู้เอกชน โดยระมัดระวังการเพิ่มอายุเฉลี่ยของพันธบัตรรัฐบาล จากแผนการดำเนินธุรกรรมแลกเปลี่ยนพันธบัตร (Bond Switching) ในช่วงปลายเดือนมี.ค. ซึ่งอาจทำให้มูลค่าพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวมีความผันผวน

สำหรับกลุ่มตราสารหนี้ อย่างที่บอกไว้ครับว่าถ้าใครสะดวกใจอาจจะเลือกลงทุนผ่านกองทุนรวมที่มีการลงทุนในตราสารหนี้เหล่านี้ก็ได้ครับ เพื่อความสะดวกและประหยัดเวลาในการติดตามข่าวสารครับผม

กลยุทธ์ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก

ทองคำ แนะนำให้ทยอยสะสมทองคำเป็นการกระจายความเสี่ยงไปเรื่อยๆ ครับ เนื่องจากทองคำยังเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่มักปรับตัวขึ้นในช่วงที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนแบบนี้ ยังไงมีติดพอร์ตการลงทุนไว้ย่อมดีกว่าแน่นอนครับ

น้ำมัน สำหรับใครที่ลงทุนอยู่ ตอนนี้ผมแนะนำให้ชะลอการลงทุนในน้ำมันกันก่อนนะครับ หลังจากที่ตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าตลาดคาดการณ์ไว้ และสภาวะอากาศหนาวที่ผิดปกติในยุโรปเริ่มกลับสู่ปกติแล้ว ในขณะที่การประท้วงในประเทศลิเบียเริ่มคลี่คลายแล้ว และเข้าสู่ช่วงฤดูกาลปิดซ่อมบำรุงของโรงกลั่นอีกต่าง ดังนั้นหยุดพักไว้สักครู่จะดีกว่าครับ

ภาพรวมโดยสรุปของสัปดาห์นี้

สำหรับกลยุทธ์ในสัปดาห์นี้ จะมีเพิ่มเติมส่วนของหุ้นเทคโนโลยี กับ Global Population Trend มาให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งครับ หลังจากที่อินเดียกับสหรัฐฯ ค่อนข้างจะต้องหยุดชะงักสักครู่หนึ่ง และอย่าลืมกระจายความเสี่ยงให้ดีและสะสมตามความเข้าใจในการลงทุนของแต่ละคนด้วยนะครับ

ตั้งแต่ต้นปี ผมมองว่าตลาดเกิดใหม่มักจะมาแรงขึ้น ดังนั้นตรงนี้ก็นำข้อมูลไปพิจารณาด้วยนะครับ

อยากฝากเอาไว้ว่าไม่ใช่แค่เห็นโอกาสในการเติบโตเท่านั้น แต่ผมแนะนำให้มองถึงความต้องการผลตอบแทน จำนวนเงิน และพอร์ตการลงทุนของเราอย่างเหมาะสมประกอบกันด้วยนะครับ

แล้วพบกันใหม่ในสัปดาห์หน้าครับ!

“ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน”

หมายเหตุ : *ข้อมูลจาก Bloomberg ณวันที่ 8 มี.ค. 2561 ทั้งนี้ เอกสารนี้จัดทำเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับเผยแพร่ทั่วไป ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อชักชวน ชี้นำ หรือ เสนอซื้อ-ขาย หลักทรัพย์ใดๆ จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็นหรือคำแนะนำในการตัดสินใจการลงทุนทางการเงิน และทางธุรกิจแต่อย่างใดโดยสิ้นเชิง ผู้ใช้ข้อมูลนี้ต้องใช้ความระมัดระวังด้วยวิจารณญาณของตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นด้วยตนเอง