สวัสดีครับผม!!! อัศวินกองทุน ยุค Digital กลับมาแล้วครับ

สำหรับสัปดาห์นี้ ผลบอลโลกก็ยังผันผวนเหมือนเดิม แชมป์เก่าตกรอบไป แต่ตลาดหุ้นดูเหมือนจะหนักกว่าหลายเท่า เพราะหลายคนเกิดคำถามต่อว่าเอาไงดี?

สรุปประเด็นทุกตลาดสำคัญทั้งหมด ครบถ้วนจัดเต็มแน่นอน

Focus ประเทศน่าลงทุนประจำสัปดาห์ที่ 2-6 กรกฎาคม 2561

แม้ว่าภาพรวมจะผันผวนแบบนี้ แต่ผมแนะนำให้มองเป็นการกระจายความเสี่ยงโดยสะสมทุกตลาดที่มีโอกาสครับ โดยแบ่งตามพอร์ตการลงทุนที่เราสนใจและตลาดที่เรามีความเข้าใจในการลงทุนครับ

อย่างไรก็ตามคำแนะนำเพิ่มเติมคือ ระวังความผันผวนที่มากในตอนนี้ และตอบคำถามให้ได้ว่าเราลงทุนในรูปแบบไหน ถ้าเป็นระยะยาวก็มองภาพให้ไกลครับว่าปัจจัยที่กระทบนี้เป็นระยะสั้น และมีผลต่อการลงทุนของเราหรือเปล่า

  • เหตุผล : Valuation และการรับรู้ข่าวร้ายทั่วโลก ทำให้น่าสนใจในการสะสมหลายตลาด
  • Focus : ตลาดหุ้นทั่วโลก ยกเว้น A-SHARE กับ เกาหลี
  • ความน่าสนใจ : โอกาสในการทยอยสะสมหุ้นที่มีมูลค่าต่ำ Valuation ดี

Scan การปรับตัวตลาดหุ้นทั่วโลก

  • หุ้นไทยตกลงจนหลายคนถามว่า ทำไมมันตกขนาดนี้ นี่ประเทศเราจะล่มสลายแล้วหรือไม่ แต่มุมมองผมยังมองว่าสภาวะที่มากระทบนี้เป็นเรื่องชั่วคราวเท่านั้น แต่ในระยะยาวแล้วมันคือโอกาสที่จะรับเพื่อให้ไปต่อได้ครับ 
  • นอกจากนั้น ผลกระทบที่มีผลมากๆ ต่อตลาดหุ้นนั้น ยังมาจากตั้งกำแพงภาษีระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งกระทบประเทศที่มีการส่งออกหนักๆ อย่างเกาหลีจึงแนะนำให้ชะลอการลงทุนในเกาหลีอยู่ครับ
  • สิ่งทีต้องระวังตอนนี้คือการสะสมอย่างมีเป้าหมายที่ชัดเจน ร่วมกับทบทวนวัตถุประสงค์ในการลงทุนของเราครับ เพราะว่าถึงแม้ภาพรวมผมจะมองว่าไปต่อได้ แต่ถ้าเป้าหมายคือกำไรในระยะสั้น ก็ต้องพิจารณาเปรียบเทียบกันให้ดีแล้วล่ะครับ

Insight ตลาดหุ้นสหรัฐฯ

แม้ว่าจะมีความผันผวนบ้าง ตลาดหุ้นนั้นเรียกว่ายังแข็งแรงอยู่ครับ

ทั้งเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง จากการบริโภคในประเทศและการลงทุนเอกชน นอกจากนี้ คาดว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจะส่งผลบวกต่อการขยายตัวเศรษฐกิจต่อเนื่อง เป็นปัจจัยสนับสนุนผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนต่อไป ดังนั้นสบายใจได้ครับ

สรุปสั้นๆ : ทยอยสะสมต่อครับ

Insight ตลาดหุ้นยุโรป

สัปดาห์นี้ข่าวดีอีกเรื่องคือธนาคารยุโรปยังคงแผนนโยบายการเงินตามเดิม ประกอบกับพรรคการเมืองอิตาลีมีท่าทีประนีประนอมต่อกันมากขึ้นตั้งแต่หลายสัปดาห์ก่อน ทำให้โอกาสที่จะสามารถตั้งรัฐบาลใหม่มีมากขึ้น และลดความไม่แน่นอนทางการเมืองลงไปครับ

ดังนั้นสถานการณ์โดยรวมเหมือนจะเป็นโอกาสให้เราสะสมต่อได้ครับผม ประกอบกับการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ทำให้พอมั่นใจว่าตลาดทุนยังสามารถไปต่อได้อยู่ครับ

สรุปสั้นๆ : กลับมาทยอยสะสมได้ครับ 

Insight ตลาดหุ้นญี่ปุ่น

ตลาดญี่ปุ่นยังคงการแกว่งตัวในกรอบแคบๆ และลดลงมาหน่อยในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ยังแนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นญี่ปุ่นต่อไปครับ

เนื่องจากมุมมองโดยรวมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงครับ ธนาคารกลางญี่ปุ่นที่มีแนวโน้มที่จะคงมาตรการ QE ต่อไปเนื่องจากเศรษฐกิจไตรมาสแรกของญี่ปุ่นกลับมาหดตัวลง -0.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่นครับ

สรุปสั้นๆ : ตอนนี้ยังทยอยสะสมต่อไปได้ครับ

Insight ตลาดหุ้นอินเดีย

สถานการณ์โดยรวมยังเหมือนเดิม มีการผันผวนเป็นปกติ ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีปัจจัยอะไรมากระทบครับผม หลังจากช่วงที่ผ่านมาราคาได้มีการปรับฐานจากความกังวลต่อนโยบายการจัดเก็บภาษีจากกำไรการขายหุ้นแล้ว

ตอนนี้นักวิเคราะห์ได้มีการปรับประมาณการรายได้ของบริษัทจดทะเบียนเพิ่มขึ้นตามทิศทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยให้สะสมต่อไปได้เรื่อยๆ เหมือนเดิมครับผม

สรุปสั้นๆ : ทยอยสะสมต่อครับ

Insight ตลาดหุ้นเกาหลี

อันนี้สิน่ากลัวครับ เป็นตลาดเดียวเลยที่ต้องระวังครับ ย้ำนะครับ ห้ามสะสมเด็ดขาด

หลังจากที่มีการตั้งกำแพงภาษีระหว่างสหรัฐฯและจีน อาจส่งผลให้การค้าโลกชะลอตัวลง เนื่องจากเศรษฐกิจของเกาหลีพึ่งพาการส่งออกสินค้า ทำให้เกาหลีมีความเสี่ยงที่จะโดนผลกระทบจากสงครามทางการค้าอยู่ครับ

จะเห็นว่าตลาดนี้มีการผันผวนค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมา ยังไงระวังกันด้วยนะครับ สำหรับคนที่ชอบเกาหลี ผมแนะนำว่าอยู่ห่างโอปป้ากันก่อนดีกว่าครับ

สรุปสั้นๆ : รอก่อนจ้า หยุดไปสักพัก

Insight ตลาดหุ้นไทย

แม้ว่าหุ้นไทยจะทำให้ใครหลายคนใจสั่นมากจนถึงขั้นอยากจะบ่นว่า เจ้าอัศวินมันแนะนำให้สะสมได้ยังไงฮะ!

แต่บอกตรงๆ ว่ามุมมองของผมที่มีต่อเศรษฐกิจในประเทศที่มีสัญญาณดีขึ้นจากทั้งการบริโภคครัวเรือน และการลงทุนเอกชน จะช่วยให้รายได้บริษัทจดทะเบียนในภาพรวมยังคงขยายตัวได้ดีขึ้นครับ

(อย่าลืมนะครับว่า “ไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก ยกเว้นแต่บอลโลกที่ไม่ได้ไป” อะไรนะ ไม่ตลกเหรอ)

ข่าวดีให้ขาย ข่าวร้ายให้ซื้อ ยังเป็นคำคมทีใช้กันเสมอ แต่ประเด็นคือ เราเชื่อมั่นในมุมมองของตัวเองหรือเปล่าครับว่าตอนนี้ตลาดซึมซับข่าวร้ายไว้แล้ว และเราไม่สามารถซื้อในจุดที่ต่ำสุดได้จริงๆ ดังนันการทยอยสะสมจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ต้องนำมาปรับใช้ครับ

สรุปสั้นๆ : สะสมต่อไป แต่ระวังไว้หน่อยนะครับ

Insight ตลาดหุ้นจีน

แนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นจีนเฉพาะ H-SHARE เท่านั้นครับ  แต่ให้ชะลอลงทุนหุ้นจีน A-Share  หลังจากสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน เริ่มรุนแรงขึ้น ทำให้ในอนาคตเศรษฐกิจจีนมีโอกาสโดนกระทบจากการขึ้นภาษีนำเข้าสหรัฐฯ

สรุปสั้นๆ : ทยอยสะสมต่อไป แต่เน้นแค่ H-SHARE เท่านั้นนะครับ

แนะนำการลงทุนประจำสัปดาห์ จากอัศวินกองทุน

  • ตลาดตราสารทุน : สะสมได้ทุกตลาด แต่ให้เน้นหุ้นสหรัฐฯ, ยุโรป, ญี่ปุ่น H-SHARE, A-SHARE, อินเดีย ยกเว้นตลาดเกาหลี
  • ตลาดตราสารหนี้ : แนะนำลงทุนตราสารหนี้ High Yield สหรัฐฯ ส่วนตราสารหนี้ไทยแนะนำให้ซื้อตราสารหนี้ไทยช่วงอายุ 1-3 ปี
  • สินทรัพย์ทางเลือก : ทยอยสะสมทั้งทองคำ และน้ำมัน

เรามาดูสัดส่วนการลงทุนที่แนะนำประจำสัปดาห์กันบ้างครับ

สัดส่วนการลงทุนประจำสัปดาห์ : ระดับความเสี่ยงต่ำ

พอร์ตการลงทุนระยะยาว

  • หุ้นไทย 12%
  • ตราสารหนี้ต่างประเทศ 44%
  • ตราสารหนี้ไทย 44%

พอร์ตการลงทุนระยะสั้น

  • หุ้นไทย 12%
  • ตราสารหนี้ต่างประเทศ 40%
  • ตราสารหนี้ไทย 48%

สัดส่วนการลงทุนประจำสัปดาห์ : ระดับความเสี่ยงกลาง

พอร์ตการลงทุนระยะยาว

  • หุ้นต่างประเทศ 24%
  • หุ้นไทย 30%
  • ตราสารหนี้ต่างประเทศ 20%
  • ตราสารหนี้ไทย 20%
  • สินค้าโภคภัณฑ์ 6%

พอร์ตการลงทุนระยะสั้น

  • หุ้นต่างประเทศ 22%
  • หุ้นไทย 30%
  • ตราสารหนี้ต่างประเทศ 16%
  • ตราสารหนี้ไทย 26%
  • สินค้าโภคภัณฑ์ : ทองคำ 3%
  • สินค้าโภคภัณฑ์ : น้ำมัน 3%

สัดส่วนการลงทุนประจำสัปดาห์ : ระดับความเสี่ยงสูง

พอร์ตการลงทุนระยะยาว

  • หุ้นต่างประเทศ 40%
  • หุ้นไทย 42%
  • ตราสารหนี้ต่างประเทศ 5%
  • ตราสารหนี้ไทย 5%
  • สินค้าโภคภัณฑ์ 8%

พอร์ตการลงทุนระยะสั้น

  • หุ้นต่างประเทศ 38%
  • หุ้นไทย 42%
  • ตราสารหนี้ต่างประเทศ 4%
  • ตราสารหนี้ไทย 8%
  • สินค้าโภคภัณฑ์ : ทองคำ 4%
  • สินค้าโภคภัณฑ์ : น้ำมัน 4%

หมายเหตุ : “ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน” ข้อมูลจาก Bloomberg ณ วันที่ 28 มิถุนายน 2561

ทั้งนี้ เอกสารนี้จัดทำโดย นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มจัดสรรสินทรัพย์และกองทุนต่างประเทศ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับเผยแพร่ทั่วไป โดยข้อคิดเห็นและบทความในเอกสารฉบับนี้ เป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ผู้ใช้ข้อมูลนี้จึงต้องใช้ความระมัดระวังด้วยวิจารณญาณของตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นด้วยตนเอง