สวัสดีครับผม!!! อัศวินกองทุน ยุค Digital กลับมาแล้วครับ

สำหรับสัปดาห์นี้ นอกจากผลของบอลโลกที่ผันผวนสุดๆ แล้ว ยังมีตลาดหุ้นไทยที่ผันผวนชวนใจสั่นให้เราติดตามยิ่งกว่าว่าจะเป็นอย่างไร (ฮา)

และแน่นอนว่าเราจะอัพเดทสงครามกำแพงภาษีที่เกิดขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และจีนว่าจะเกิดอะไรบ้าง? ติดตามได้ที่นี่เลยครับ สรุปประเด็นทุกตลาดสำคัญทั้งหมด ครบถ้วนจัดเต็มแน่นอน

Focus ประเทศน่าลงทุนประจำสัปดาห์ที่ 25-29 มิถุนายน 2561

สัปดาห์นี้ ผมยังแนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นไทยต่อไปครับ แต่ต้องระวังมากขึ้นเพราะยังมีความผันผวนค่อนข้างมากครับผม

  • Focus : ไทย
  • ความน่าสนใจ : Valuation กลับมาน่าสนใจอีกครั้ง ในขณะที่เศรษฐกิจยังขยายตัวได้ดี หลังจากตลาดซึมซับข่าวร้ายไว้ส่วนหนึ่งแล้ว แต่ภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศที่มีสัญญาณดีขึ้นจากทั้งการบริโภคครัวเรือน และการลงทุนเอกชน

Scan การปรับตัวตลาดหุ้นทั่วโลก

  • สัปดาห์นี้ ถ้าเป็นฟุตบอลก็ต้องเรียกว่าพลิกเกมส์กันเลยทีเดียวครับ สำหรับตลาดหุ้นไทยที่เหมือนจะถูกบังคับให้ทำเกมส์รับกันรัวๆ เนื่องจากมีการขายของต่างประเทศค่อนข้างมาก ทางแก๊งเม่าไทยก็ต้องพยายามสวนกลับ ซื้อรับกันแหลกเลยล่ะครับผม
  • เกมส์รับในประเทศไทยยังไม่เท่าไร แต่เจอการบุกหนักของสองยักษ์ใหญ่ อย่างสหรัฐฯ และจีน ที่ใส่กันแบบไม่ยั้งจนกรรมการยกธงล้ำหน้ากันไม่ทันเลยทีเดียว
  • ใช่ครับ ผมหมายถึงการตั้งกำแพงภาษีระหว่างสหรัฐฯ และจีน! แม้ไม่ได้เตะบอลโลกทั้งคู่ แต่สถานการณ์แบบนี้น่าจับตามองกว่าอีกครับ เพราะส่งผลให้การค้าโลกชะลอตัวลง!! ดังนั้นประเทศที่มีการส่งออกหนักๆ อย่างเกาหลีจึงแนะนำให้ชะลอการลงทุนอีกทีนะครับ

Insight ตลาดหุ้นสหรัฐฯ

สำหรับฝั่งสหรัฐฯ แม้ว่าจะไม่ได้ไปบอลโลกในรอบนี้ แต่ทางด้านตลาดหุ้นนั้นเรียกว่ายังแข็งแรงอยู่ครับ

ทั้งเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง จากการบริโภคในประเทศและการลงทุนเอกชน นอกจากนี้ คาดว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจะส่งผลบวกต่อการขยายตัวเศรษฐกิจต่อเนื่อง เป็นปัจจัยสนับสนุนผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนต่อไป ดังนั้นสบายใจได้ครับ

สรุปสั้นๆ : ทะยอยสะสมต่อครับ

Insight ตลาดหุ้นยุโรป

ยังสะสมต่อได้ครับ เนื่องจากพรรคการเมืองอิตาลีมีท่าทีประนีประนอมต่อกันมากขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ทำให้โอกาสที่จะสามารถตั้งรัฐบาลใหม่มีมากขึ้น และลดความไม่แน่นอนทางการเมืองลง

ดังนั้นสถานการณ์โดยรวมเหมือนจะเป็นโอกาสให้เราสะสมต่อได้ครับผม ประกอบกับการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ทำให้พอมั่นใจว่าตลาดทุนยังสามารถไปต่อได้อยู่ครับ

สรุปสั้นๆ : ยังทยอยสะสมได้ครับ

Insight ตลาดหุ้นญี่ปุ่น

แม้ว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเองก็ฟอร์มเหมือนทีมชาติ ณ ตอนนี้เลยมีการแกว่งตัวในกรอบแคบๆ เหมือนกับดูทรงเกมส์รุกและรับจากสถานการณ์อยู่ แต่ยังแนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นญี่ปุ่นต่อไปครับ

เนื่องจากมุมมองโดยรวมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงครับ ธนาคารกลางญี่ปุ่นที่มีแนวโน้มที่จะคงมาตรการ QE ต่อไปเนื่องจากเศรษฐกิจไตรมาสแรกของญี่ปุ่นกลับมาหดตัวลง -0.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่นครับ

สรุปตอนนี้ ยังทยอยสะสมต่อไปได้ครับ ลุยต่อไปครับผม

Insight ตลาดหุ้นอินเดีย

ยังไปต่อได้ครับ ตอนนี้ยังไม่มีปัจจัยอะไรมากกระทบครับผม หลังจากช่วงที่ผ่านมาราคาได้มีการปรับฐานจากความกังวลต่อนโยบายการจัดเก็บภาษีจากกำไรการขายหุ้นแล้ว

ตอนนี้นักวิเคราะห์ได้มีการปรับประมาณการรายได้ของบริษัทจดทะเบียนเพิ่มขึ้นตามทิศทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยให้สะสมต่อไปได้เรื่อยๆ เหมือนเดิมครับผม

สรุปสั้นๆ : ทยอยสะสมต่อได้เลยครับ

Insight ตลาดหุ้นเกาหลี

อันนี้สิน่ากลัวครับ เป็นตลาดเดียวเลยที่ต้องระวังครับ หลังจากที่ไปแพ้สวีเดนมา เอ้ย ไม่ใช่ครับ! หลังจากที่มีการตั้งกำแพงภาษีระหว่างสหรัฐฯและจีน อาจส่งผลให้การค้าโลกชะลอตัวลง เนื่องจากเศรษฐกิจของเกาหลีพึ่งพาการส่งออกสินค้า ทำให้เกาหลีมีความเสี่ยงที่จะโดนผลกระทบจากสงครามทางการค้าอยู่ครับ

จะเห็นว่าตลาดนี้มีการผันผวนค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมา ยังไงระวังกันด้วยนะครับ สำหรับคนที่ชอบเกาหลี ผมแนะนำว่าอยู่ห่างอปป้ากันก่อนดีกว่าครับ

สรุปสั้นๆ : กลับมาชะลออีกแล้วจ้า

Insight ตลาดหุ้นไทย

แม้ว่าหุ้นไทยจะทำให้ใครหลายคนใจสั่นตั้งแต่สัปดาห์ก่อน และยิ่งกว่าในสัปดาห์นี้  แต่มุมมองของผมที่มีต่อเศรษฐกิจในประเทศที่มีสัญญาณดีขึ้นจากทั้งการบริโภคครัวเรือน และการลงทุนเอกชน จะช่วยให้รายได้บริษัทจดทะเบียนในภาพรวมยังคงขยายตัวได้ดีขึ้นครับ

ยังย้ำเหตุผลเดิมนะครับ เชื่อใจกันไว้ครับว่า “ไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก ยกเว้นแต่บอลโลกที่ไม่ได้ไป”

ผมเชื่อนะครับ ตลาดซึมซับข่าวร้ายไว้ส่วนหนึ่งแล้วครับ ดังนั้นเหมือนเป็นโอกาสที่จะแนะนำให้ซื้อ เพราะปัจจัยอื่นๆ ยังเป็นบวกหมดต่อตลาดหุ้นไทยครับ

สรุปสั้นๆ : สะสมต่อไป แต่ระวังไว้หน่อยนะครับ

Insight ตลาดหุ้นจีน

แนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นจีน ที่เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นที่เกี่ยวกับการบริโภคจีน ซึ่งผลประกอบการมีแนวโน้มขยายตัวสูง ตามรายได้เฉลี่ยของผู้บริโภคจีนที่เพิ่มขึ้น รวมถึงกลุ่มที่เป็น New Economy ทีกำลังมาแรงในขณะนี้ครับ

สรุปสั้นๆ : ทยอยสะสมต่อไป แต่เน้นกลุ่มที่ว่านี้หน่อยครับ

แนะนำการลงทุนประจำสัปดาห์ จากอัศวินกองทุน

  • ตลาดตราสารทุน : สะสมได้ทุกตลาด ทั้งหุ้นสหรัฐฯ, ยุโรป, ไทย, H-Share, A-Share, อินเดีย ยกเว้นตลาดเกาหลี
  • ตลาดตราสารหนี้ : แนะนำลงทุนตราสารหนี้ High Yield สหรัฐฯ ส่วนตราสารหนี้ไทยแนะนำให้ซื้อตราสารหนี้ไทยช่วงอายุ 1-3 ปี
  • สินทรัพย์ทางเลือก : ทยอยสะสมทั้งทองคำ และน้ำมัน

เรามาดูสัดส่วนการลงทุนที่แนะนำประจำสัปดาห์กันบ้างครับ

สัดส่วนการลงทุนประจำสัปดาห์ : ระดับความเสี่ยงต่ำ

พอร์ตการลงทุนระยะยาว

  • หุ้นไทย 12%
  • ตราสารหนี้ต่างประเทศ 44%
  • ตราสารหนี้ไทย 44%

พอร์ตการลงทุนระยะสั้น

  • หุ้นไทย 10%
  • ตราสารหนี้ต่างประเทศ 40%
  • ตราสารหนี้ไทย 50%

สัดส่วนการลงทุนประจำสัปดาห์ : ระดับความเสี่ยงกลาง

พอร์ตการลงทุนระยะยาว

  • หุ้นต่างประเทศ 24%
  • หุ้นไทย 30%
  • ตราสารหนี้ต่างประเทศ 20%
  • ตราสารหนี้ไทย 20%
  • สินค้าโภคภัณฑ์ 6%

พอร์ตการลงทุนระยะสั้น

  • หุ้นต่างประเทศ 24%
  • หุ้นไทย 28%
  • ตราสารหนี้ต่างประเทศ 16%
  • ตราสารหนี้ไทย 26%
  • สินค้าโภคภัณฑ์ : ทองคำ 3%
  • สินค้าโภคภัณฑ์ : น้ำมัน 3%

สัดส่วนการลงทุนประจำสัปดาห์ : ระดับความเสี่ยงสูง

พอร์ตการลงทุนระยะยาว

  • หุ้นต่างประเทศ 40%
  • หุ้นไทย 42%
  • ตราสารหนี้ต่างประเทศ 5%
  • ตราสารหนี้ไทย 5%
  • สินค้าโภคภัณฑ์ 8%

พอร์ตการลงทุนระยะสั้น

  • หุ้นต่างประเทศ 40%
  • หุ้นไทย 40%
  • ตราสารหนี้ต่างประเทศ 3%
  • ตราสารหนี้ไทย 9%
  • สินค้าโภคภัณฑ์ : ทองคำ 4%
  • สินค้าโภคภัณฑ์ : น้ำมัน 4%

หมายเหตุ : “ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน” ข้อมูลจาก Bloomberg ณ วันที่ 21 มิถุนายน 2561

ทั้งนี้ เอกสารนี้จัดทำโดย นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มจัดสรรสินทรัพย์และกองทุนต่างประเทศ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับเผยแพร่ทั่วไป โดยข้อคิดเห็นและบทความในเอกสารฉบับนี้ เป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ผู้ใช้ข้อมูลนี้จึงต้องใช้ความระมัดระวังด้วยวิจารณญาณของตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นด้วยตนเอง