สวัสดีครับผม!!! อัศวินกองทุนยุค Digital กลับมาแล้วครับ

สำหรับสัปดาห์นี้ ผมขอแนะนำตลาดที่น่าสนใจคือ ญี่ปุ่น และ ยุโรปครับ ส่วน A-SHARE ตอนนี้ชะลอไปก่อนนะครับ

สรุปประเด็นทุกตลาดสำคัญทั้งหมด และติดตามได้ในบทความนี้เลยครับ กับ สรุปภาพรวมการลงทุน ช่วงวันที่ 7-11 พฤษภาคม 2561 [WEEKLY OUTLOOK กับอัศวินกองทุน]

Focus ประเทศน่าลงทุนประจำสัปดาห์ที่ 7- 11 พฤษภาคม 2561

สัปดาห์นี้ยังแนะนำตลาด “ยุโรป” เหมือนเดิม เพิ่มเติมด้วย “ญี่ปุ่น” ครับผม

  • Focus : ตลาดหุ้นยุโรปและญี่ปุ่น อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ สวนทางกับญี่ปุ่นและยูโรโซน
  • ความน่าสนใจ : ค่าเงินเยนและยูโรมีแนวโน้มอ่อนค่า สนับสนุนหุ้นกลุ่มผู้ส่งออกของยุโรปและญี่ปุ่น

Scan การปรับตัวตลาดหุ้นทั่วโลก

  • สถานการณ์ตอนนี้ ขอแนะนำให้ซื้อ หุ้นยุโรปและญี่ปุ่น จากระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของ FED สวนทางกับเงินเฟ้อในประเทศญี่ปุ่นและยูโรโซนที่ยังทรงตัวอยู่ต่ำกว่าระดับเป้าหมายของ BOJ และ ECB ครับ ผมมองว่า FED จะออกมาส่งสัญญาณ hawkish เพื่อจัดการเงินเฟ้ออย่างเด็ดขาด มากกว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นและยุโรป ทำให้ค่าเงินเยนและยูโรมีแนวโน้มอ่อนค่า และสนับสนุนหุ้นกลุ่มผู้ส่งออกในตลาดทั้งสองนี้ครับ
  • ส่วนอีกด้านหนึ่งฝั่งเอเชีย ผมแนะนำชะลอการลงทุนในตลาดหุ้นจีน A-share เนื่องจากความไม่แน่นอนของการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ แม้ว่าสถานการณ์เหมือนจะดีขึ้น แต่ควรจะติดตามต่อไป  รวมถึงชะลอการลงทุนในตลาดหุ้นเกาหลี เนื่องจากดัชนีชี้นำเศรษฐกิจส่งสัญญาณถึงการชะลอตัวของการค้าโลก ทำให้เกาหลีซึ่งพึ่งพาการส่งออกสูงอาจได้รับผลกระทบ

Insight ตลาดหุ้นสหรัฐฯ

สำหรับฝั่งสหรัฐฯ แนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นสหรัฐฯต่อไปครับ แม้ว่าจะมีความไม่แน่นอนของการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ก็ตามแต่ภาพรวมระยะยาวยังเป็นไปได้อยู่ครับ ดังนั้นเป็นโอกาสทยอยสะสมไปเรื่อยๆ ของเราครับ

สรุปสั้นๆ : สะสมกันต่อไปครับผม

Insight ตลาดหุ้นยุโรป

ยังแนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นยุโรป หลังจากราคาได้ลงมามากครับ ตอนนี้ก็ยังเป็นโอกาสอยู่ครับ เพราะผลประกอบการมีโอกาสออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด ทำให้ Valuation ของหุ้นยุโรปกลับมามีความน่าสนใจในตอนนี้ครับ

นอกจากนี้ ค่าเงินยูโรอาจมีแนวโน้มอ่อนค่าหลังจาก ECB ส่งสัญญาณ dovish ผ่อนปรนเกี่ยวกับเงินเฟ้อกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนหุ้นกลุ่มผู้ส่งออกให้ได้รับประโยชน์ครับ

สรุปสั้นๆ : สะสมต่อไปครับ

Insight ตลาดหุ้นญี่ปุ่น

ตอนนี้เป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นญี่ปุ่นครับ เนื่องจากค่าเงินเยนอาจอ่อนค่าลงต่อเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งสนับสนุนผลประกอบการหุ้นกลุ่มผู้ส่งออกเหมือนกันกับหุ้นยุโรป นอกจากนั้น BOJ คงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมาอีกระลอกหนึ่ง ในขณะที่ตลาดเริ่มกลับมากังวลว่า FED อาจขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น จากเงินเฟ้อที่อาจปรับตัวขึ้นเร็ว

สรุปอีกที ทยอยสะสมได้ครับ ตอนนี้โอกาสดีจ้า

Insight ตลาดหุ้นอินเดีย

สำหรับสัปดาห์นี้ ยังแนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นอินเดียต่อไปเหมือนสัปดาห์ก่อนครับ ตอนนี้เหมือนว่าจะมีราคาผันผวนลงมาเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อน ซึ่งยังสะท้อนว่าในระยะยาวแล้ว ภาพรวมของหุ้นอินเดียยังดูน่าสนใจครับ

สรุปสั้นๆ : สะสมเพิ่มต่อไปครับผม

Insight ตลาดหุ้นเกาหลี

ช่วงนี้แนะนำให้ชะลอการลงทุนหุ้นเกาหลีก่อนนะครับ จากตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของเดือนที่ผ่านมาของประเทศคู่ค้าหลัก เช่น สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และยุโรป ออกมาชะลอตัวลงเรื่อยๆ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกเกาหลีมีแนวโน้มชะลอลง นอกจากนี้ สงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่รุนแรงมากขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อประเทศที่มีสัดส่วนการส่งออกสูงครับ

สรุปสั้นๆ : ชะลอก่อนนะครับ

Insight ตลาดหุ้นไทย

สถานการณ์ตอนนี้ยังเป็นเหมือนเดิมครับผม แนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นไทย จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น สนับสนุนผลประกอบการของหุ้นกลุ่มพลังงาน นอกจากนี้ เศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นต่อเนื่อง เป็นปัจจัยสนับสนุนผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนกลุ่มอื่นเช่นกัน

สรุปสั้นๆ : ทยอยสะสมไปจ้า

Insight ตลาดหุ้นจีน

สัปดาห์นี้ลมเหมือนจะเปลี่ยนทิศครับ แนะนำให้ชะลอการลงทุนในหุ้นจีน A-share เพื่อรอดูการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน โดยความไม่แน่นอนของผลลัพธ์ของการเจรจาจะทำให้ตลาดหุ้นจีนยังมีความผันผวนอยู่ครับ แบบนี้ไม่ค่อยจะดีแน่ และในวันที่ 15 พ.ค.ที่จะถึงนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ จะมีการจัดประชาพิจารณ์ในการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ต้องจับตาต่อไปครับ

สรุปสั้นๆ : ชะลอไปก่อนนะครับ

คำแนะนำเพิ่มเติม : หุ้นตลาดเกิดใหม่ และหุ้นโกลบอล Global Population Trend

สัปดาห์นี้ยังอยู่ที่หุ้นโกลบอล Global Population Trend เนื่องจากหุ้นกลุ่มนี้จะได้ประโยชน์จากแนวโน้มเศรษฐกิจโลก พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากรโลกต่างๆ ที่ทำให้กลุ่มนี้เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจครับ

สรุปสั้นๆ : กลุ่มนี้ไปได้จ้า

แนะนำการลงทุนประจำสัปดาห์ จากอัศวินกองทุน

  • ตลาดตราสารทุน : ซื้อหุ้นยุโรป ญี่ปุ่น ทยอยสะสมได้ทุกตลาด ยกเว้นเกาหลีกับ A-SHARE
  • ตลาดตราสารหนี้ : แนะนำคงการลงทุนตราสารหนี้ระยะยาวต่างประเทศ ส่วน
  • ตราสารหนี้ไทยแนะนำให้ซื้อตราสารหนี้ระยะสั้น
  • สินทรัพย์ทางเลือก : หาจังหวะทยอยสะสมทั้งทองคำและน้ำมันเพิ่มเติม

เรามาดูสัดส่วนการลงทุนที่แนะนำประจำสัปดาห์กันบ้างครับ

สัดส่วนการลงทุนประจำสัปดาห์ : ระดับความเสี่ยงต่ำ

พอร์ตการลงทุนระยะยาว (การวางแผนการลงทุนในระยะยาว)

  • หุ้นไทย 12%
  • ตราสารหนี้ต่างประเทศ 44%
  • ตราสารหนี้ไทย 44%

พอร์ตการลงทุนระยะสั้น (การปรับพอร์ตตามสถานการณ์)

  • หุ้นไทย 12%
  • ตราสารหนี้ต่างประเทศ 40%
  • ตราสารหนี้ไทย 48%

สัดส่วนการลงทุนประจำสัปดาห์ : ระดับความเสี่ยงกลาง

พอร์ตการลงทุนระยะยาว (การวางแผนการลงทุนในระยะยาว)

  • หุ้นต่างประเทศ 24%
  • หุ้นไทย 30%
  • ตราสารหนี้ต่างประเทศ 20%
  • ตราสารหนี้ไทย 20%
  • สินค้าโภคภัณฑ์ 6%

พอร์ตการลงทุนระยะสั้น (การปรับพอร์ตตามสถานการณ์)

  • หุ้นต่างประเทศ 26%
  • หุ้นไทย 30%
  • ตราสารหนี้ต่างประเทศ 13%
  • ตราสารหนี้ไทย 25%
  • สินค้าโภคภัณฑ์ : ทองคำ 3%
  • สินค้าโภคภัณฑ์ : น้ำมัน 3%

สัดส่วนการลงทุนประจำสัปดาห์ : ระดับความเสี่ยงสูง

พอร์ตการลงทุนระยะยาว (การวางแผนการลงทุนในระยะยาว)

  • หุ้นต่างประเทศ 40%
  • หุ้นไทย 42%
  • ตราสารหนี้ต่างประเทศ 5%
  • ตราสารหนี้ไทย 5%
  • สินค้าโภคภัณฑ์ 8%

พอร์ตการลงทุนระยะสั้น (การปรับพอร์ตตามสถานการณ์)

  • หุ้นต่างประเทศ 42%
  • หุ้นไทย 42%
  • ตราสารหนี้ต่างประเทศ 2%
  • ตราสารหนี้ไทย 6%
  • สินค้าโภคภัณฑ์ : ทองคำ 4%
  • สินค้าโภคภัณฑ์ : น้ำมัน 4%

หมายเหตุ : “ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน” ข้อมูลจาก Bloomberg ณ วันที่ 3 เม.ย. 2561

ทั้งนี้ เอกสารนี้จัดทำโดย นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มจัดสรรสินทรัพย์และกองทุนต่างประเทศ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับเผยแพร่ทั่วไป โดยข้อคิดเห็นและบทความในเอกสารฉบับนี้ เป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ผู้ใช้ข้อมูลนี้จึงต้องใช้ความระมัดระวังด้วยวิจารณญาณของตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นด้วยตนเอง