สวัสดีครับผม!!! อัศวินกองทุนยุค Digital กลับมาแล้วครับ

สำหรับสัปดาห์ที่ผ่านมาข่าวดีของคนที่กำลังรอสะสมหุ้น A-SHARE อยู่ครับ ส่วนตลาดหุ้นไทยก็เหมือนจะดีขึ้นมาเล็กน้อย

ส่วนตลาดอื่นๆ จะเป็นอย่างไร ติดตามต่อได้ในบทความวิเคราะห์แต่ละตลาดกันได้เลยครับผม

Focus ประเทศน่าลงทุนประจำสัปดาห์ที่ 17-20 เมษายน 2561

  • Focus : ตลาดหุ้นจีน A-SHARE
  • ความน่าสนใจ : มีข่าวดีด้านการเปิดการค้าเสรี ลดภาษีนำเข้า และเหมือนสถานการณ์กับสหรัฐฯจะดีขึ้น

สัปดาห์นี้ยังเหมือนเคย สามารถทยอยสะสมหุ้นได้หลายตลาดครับ (ยกเว้นแต่เกาหลี) แต่สำหรับตลาดที่น่าสนใจตอนนี้คือ A-SHARE ครับ

ความเห็นของผมมองว่า ท้ายที่สุดแล้วสหรัฐฯ และจีนจะสามารถเจรจาข้อตกลงทางการค้ากันได้ ทำให้การปรับตัวลงของตลาดหุ้นในช่วงที่ผ่านมาจากความกังวลสงครามการค้าเป็นโอกาสให้ทยอยสะสมครับ

และนี่คือจังหวะที่น่าสะสมอีกจังหวะหนึ่งครับ

Scan การปรับตัวตลาดหุ้นทั่วโลก

ผลของความผันผวนเนื่องจากการนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ดูเหมือนจะคลี่คลายลงไปครับ เนื่องจาก ประธานาธิบดี Xi Jinping ของจีนมีถ้อยแถลงในงาน Boao Forum ที่สนับสนุนการค้าเสรี และอาจจะลดภาษีนำเข้ารถยนต์จากสหรัฐฯด้วย ภาพรวมคาดว่าสหรัฐฯ และจีนจะสามารถเจรจาข้อตกลงทางการค้ากันได้ ทำให้ A-SHARE กลับมาน่าสนใจอีกครั้งหนึ่ง

แต่สิ่งที่ต้องระวังคือควรชะลอการลงทุนในตลาดหุ้นเกาหลี เนื่องจากการส่งออกที่มีแนวโน้มชะลอตัว และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อในสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น อ่อนตัวลงต่อเนื่อง สะท้อนถึงความต้องการการนำเข้าที่จะลดลง แม้ว่าตอนแรกจะดูสดใส แต่ตอนนี้ดูท่าทีจะไม่ค่อยดีสักเท่าไรแล้วล่ะครับ

ขณะเดียวกัน ทางด้านตราสารหนี้ แนะนำให้ทยอยเพิ่มการลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาวต่างประเทศ เนื่องจากตลาดได้ซึมซับข่าว FED ขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ไว้มากแล้ว ขณะที่ความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสหรัฐฯ ซีเรีย และรัสเซีย จะส่งผลให้ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้น จึงถือเป็นโอกาสครับผม

Insight ตลาดหุ้นสหรัฐฯ

สามารถทยอยสะสมหุ้นสหรัฐฯ ต่อไปครับ เพราะปัจจัยหลักๆ ที่ส่งผลกระทบ มาจากความกังวลต่อผลกระทบของมาตรการการกีดกันทางการค้าเป็นหลัก ซึ่งถ้าหากสถานการณ์มีแนวโน้มจะดีขึ้น ยิ่งเป็นการดีครับ เพราะระยะยาวนี้ยังดูสดใสอยู่ครับ

สรุปสั้นๆ : สะสมกันต่อไปครับผม

Insight ตลาดหุ้นยุโรป

ยังคงทยอยสะสมหุ้นยุโรปได้อยู่ ด้วยปัจจัยเดิมที่สหรัฐฯ ได้ยกเว้นการขึ้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียมสำหรับทวีปยุโรป ทำให้ยุโรปไม่โดนผลกระทบจากการขึ้นภาษีในครั้งนี้ โดยยังแนะนำให้ลงทุนในหุ้นเล็กยุโรป small cap เป็นหลักเหมือนเช่นเคยครับ

สรุปสั้นๆ : ทยอยสะสมต่อไปครับ

Insight ตลาดหุ้นญี่ปุ่น

สำหรับสัปดาห์นี้สถานการณ์ของตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังคงลงอย่างต่อเนื่องครับ แต่มองในระยะยาวดูเหมือนว่าตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีที่จะไปต่อได้ครับ ยังคงแนะนำให้สะสมต่อไปครับ

ดังนั้น ทยอยสะสมตามภาพได้เลยครับผม

Insight ตลาดหุ้นอินเดีย

สำหรับสัปดาห์นี้ ยังแนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นอินเดียต่อไปเหมือนสัปดาห์ก่อนครับ แม่ว่าภาพรวมของตลาดหุ้นอินเดียที่ผ่านมามีความผันผวนบ้าง แต่ระยะยาวแล้วยังดูน่าสนใจครับ

สรุปสั้นๆ : สะสมเพิ่มต่อไปครับผม

Insight ตลาดหุ้นเกาหลี

หลังจากที่บอกให้ชะลอในสัปดาห์ที่แล้ว เพราะมีปัจจัยเข้ามาแทรกคือตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของเดือนที่ผ่านมาของประเทศคู่ค้าหลัก เช่น สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และยุโรป ออกมาชะลอตัวลง และเกาหลีเป็นประเทศที่มีการส่งออกสูงครับ อาจจะได้รับผลกระทบจากศึกสงครามของสหรัฐฯ และจีนอยู่ ดังนั้นสถานการณ์ยังไม่ค่อยดีเท่าไร

สรุปสั้นๆ : ชะลอก่อนนะครับ

Insight ตลาดหุ้นไทย

สัปดาห์นี้เหมือนจะมีแรงบวกขึ้นมาครับ ถ้าหากใครสะสมตามที่ผมว่ามาก็น่าจะยิ้มออกแล้วล่ะครับ

อย่างที่บอกไปครับว่า ภาพรวมนั้นเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นจะช่วยสนับสนุนผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนอื่นๆ อยู่ ดังนั้นถือเป็นโอกาสในการสะสมเรื่อยๆ ครับ

สรุปสั้นๆ : ทยอยสะสมต่อไปครับผม!!

Insight ตลาดหุ้นจีน

กลับมาแล้วจ้า A-SHARE สถานการณ์ดูเหมือนคลี่คลายไปได้ดีขึ้น จากสัญญานหลังจากประธานาธิบดี Xi Jinping มีถ้อยแถลงในงาน Boao Forum ที่สนับสนุนการค้าเสรี และอาจจะลดภาษีนำเข้ารถยนต์จากสหรัฐฯ จึงคาดว่าสหรัฐฯ และจีนจะสามารถเจรจาข้อตกลงทางการค้ากันได้ในไม่ช้านี้ครับ

สรุปสั้นๆ : สะสมกันเถอะพวกเรา

คำแนะนำเพิ่มเติม : หุ้นตลาดเกิดใหม่ และหุ้นโกลบอล Global Population Trend

สัปดาห์นี้แนะนำทั้งหุ้นเกิดใหม่และ หุ้นโกลบอล Global Population Trend เนื่องจากหุ้นทั้งสองกลุ่มนี้จะได้ประโยชน์จากแนวโน้มเศรษฐกิจโลก และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวดีขึ้น พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากรโลก ทั้งการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรที่มากขึ้นในอนาคตนี้ครับ

สรุปสั้นๆ : สะสมไว้ เป็นอีกกลุ่มที่น่าสนใจ!!

แนะนำการลงทุนประจำสัปดาห์ จากอัศวินกองทุน

  • ตลาดตราสารทุน : แนะนำให้ทยอยสะสมทุกตลาด ยกเว้นเกาหลี
  • ตลาดตราสารหนี้ : แนะนำคงการลงทุนตราสารหนี้ระยะยาวต่างประเทศ ส่วนตราสารหนี้ไทย เน้นหุ้นกู้เอกชนเป็นหลัก
  • สินทรัพย์ทางเลือก : หาจังหวะทยอยสะสมทั้งทองคำและน้ำมันเพิ่มเติม

เรามาดูสัดส่วนการลงทุนที่แนะนำประจำสัปดาห์กันบ้างครับ

สัดส่วนการลงทุนประจำสัปดาห์ : ระดับความเสี่ยงต่ำ

พอร์ตการลงทุนระยะยาว (การวางแผนการลงทุนในระยะยาว)

  • หุ้นไทย 12%
  • ตราสารหนี้ต่างประเทศ 44%
  • ตราสารหนี้ไทย 44%

พอร์ตการลงทุนระยะสั้น (การปรับพอร์ตตามสถานการณ์)

  • หุ้นไทย 12%
  • ตราสารหนี้ต่างประเทศ 40%
  • ตราสารหนี้ไทย 48%

สัดส่วนการลงทุนประจำสัปดาห์ : ระดับความเสี่ยงกลาง

พอร์ตการลงทุนระยะยาว (การวางแผนการลงทุนในระยะยาว)

  • หุ้นต่างประเทศ 24%
  • หุ้นไทย 30%
  • ตราสารหนี้ต่างประเทศ 20%
  • ตราสารหนี้ไทย 20%
  • สินค้าโภคภัณฑ์ 6%

พอร์ตการลงทุนระยะสั้น (การปรับพอร์ตตามสถานการณ์)

  • หุ้นต่างประเทศ 25%
  • หุ้นไทย 30%
  • ตราสารหนี้ต่างประเทศ 13%
  • ตราสารหนี้ไทย 26%
  • สินค้าโภคภัณฑ์ : ทองคำ 3%
  • สินค้าโภคภัณฑ์ : น้ำมัน 3%

สัดส่วนการลงทุนประจำสัปดาห์ : ระดับความเสี่ยงสูง

พอร์ตการลงทุนระยะยาว (การวางแผนการลงทุนในระยะยาว)

  • หุ้นต่างประเทศ 40%
  • หุ้นไทย 42%
  • ตราสารหนี้ต่างประเทศ 5%
  • ตราสารหนี้ไทย 5%
  • สินค้าโภคภัณฑ์ 8%

พอร์ตการลงทุนระยะสั้น (การปรับพอร์ตตามสถานการณ์)

  • หุ้นต่างประเทศ 41%
  • หุ้นไทย 42%
  • ตราสารหนี้ต่างประเทศ 2%
  • ตราสารหนี้ไทย 7%
  • สินค้าโภคภัณฑ์ : ทองคำ 4%
  • สินค้าโภคภัณฑ์ : น้ำมัน 4%

หมายเหตุ : “ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน” ข้อมูลจาก Bloomberg ณ วันที่ 11 ม.ย. 2561

ทั้งนี้ เอกสารนี้จัดทำโดย นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มจัดสรรสินทรัพย์และกองทุนต่างประเทศ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับเผยแพร่ทั่วไป โดยข้อคิดเห็นและบทความในเอกสารฉบับนี้ เป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ผู้ใช้ข้อมูลนี้จึงต้องใช้ความระมัดระวังด้วยวิจารณญาณของตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นด้วยตนเอง