ในโลกของการเงิน เรามักจะได้ยินคำว่า “เก็งกำไร” และ “ลงทุน” อยู่เสมอ ซึ่งแม้ว่าทั้งสองจะมีเป้าหมายปลายทางเพื่อผลตอบแทนเหมือนกัน แต่แนวคิด กลยุทธ์ ระยะเวลา และความเสี่ยงที่แฝงอยู่ในนั้นแตกต่างกัน

“จิตวิทยาการลงทุน” ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก แต่ในหลายๆ ครั้ง มักเป็นเรื่องที่ถูกมองข้ามไป ส่งผลให้นักลงทุนขาดทุนต่อเนื่อง หรือไม่สามารถเอาชนะตลาดได้สำเร็จ

สวัสดีครับพบกันอีกครั้งกับ ซีรี่ย์ “ใช้งานแนวรับแนวต้านอย่างมืออาชีพ” ตอนที่แล้วเป็นตอนที่ 1 ผมได้แนะนำให้รู้จักกับคำนิยาม และที่มาของการเกิดแนวรับ-แนวต้านทางจิตวิทยาให้รู้จักกัน

การวิเคราะห์ทางเทคนิค จะใช้ข้อมูลที่เกิดขึ้นจากการเทรดหุ้น 2 อย่าง ได้แก่ ราคา และปริมาณการซื้อขาย แสดงออกมาในรูปของกราฟ (Chart) ข้อมูล 2 ตัวนี้จะเป็นผลลัพธ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงอารมณ์ และพฤติกรรมการซื้อขายหุ้นของกลุ่มคนที่เข้ามาซื้อขายหุ้นในตลาด

ผมเชื่อว่า สุดยอดคุณสมบัติของหุ้นที่ทุกคนปรารถนาอยากได้มาอยู่ในพอร์ท คือ หุ้นที่เวลาราคาขึ้นจะขึ้นเร็ว แต่เวลาลงปรับตัวลงช้า เชื่อไหมครับว่า มีเทคนิคในการหาหุ้นที่มีลักษณะแบบนี้อยู่จริงครับ

“มีวิธีอะไรบ้าง ที่จะช่วยให้ซื้อ  RMF ได้ในจังหวะดีๆ ” ผมคิดว่าคำถามนี้น่าจะเป็นหนึ่งในคำถามยอดฮิตสำหรับคนที่อยากจะลงทุนใน RMF เพราะ การซื้อ RMF ได้ในจังหวะที่ดี จะทำให้ได้ต้นทุนที่ถูกและได้ผลตอบแทน 2 เด้ง

” ให้ซื้อหุ้นที่แนวรับ ” “ให้ขายหุ้นที่แนวต้าน” เป็นการใช้งานแนวรับ-แนวต้านที่ผิด!!!!วิธีครับ

ในการวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิคเพื่อการซื้อขายหุ้นนั้น ระดับราคาที่เป็นแนวรับ-แนวต้านเป็นข้อมูลจากกราฟที่มีความสำคัญอย่างมากในการหาจังหวะเทรดหุ้นที่ดี

หลายคนอาจจะสงสัยว่าหัวข้อที่เขียนขึ้นมานั้นเขียนผิดหรือเปล่า ความจริงน่าจะเขียนว่า ถ้าเราต้องการซื้อขายให้ได้กำไรมากๆ จะต้องซื้อให้ได้ราคาที่ถูกๆ และขายได้ในราคาแพงๆ แต่ทำไมหัวข้อกลับเขียนว่าต้องซื้อแพงและขายถูกจึงจะได้กำไรเยอะ

วันนี้ผมมีแบบทดสอบง่ายๆ ที่อยากให้ลองคิดตามกันดูครับ ถ้าเป็นคุณ คุณจะเลือกแบบไหน
เพื่อที่จะได้รู้ว่า การลงทุนที่คุณกำลังตัดสินใจอยู่ มันจะเป็นไปในแนวทางใด

คนที่เลือกปุ่มสีแดง : …