แม้เรื่องเงินจะไม่ใช่หัวข้อสุดโรแมนติกที่สุดในวันวาเลนไทน์ แต่ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าเรื่องเงินคือองค์ประกอบในการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ระยะยาว
มาถึงตรงนี้เลยอยากลองถามทุกคนกันดูว่า “เคยทะเลาะกับแฟนเรื่องเงินไหม?”
เอมิลี ซิโมเนียน หัวหน้าฝ่ายการเรียนรู้ของทาง Thriveworks บริษัทด้านสุขภาพจิต ให้ข้อมูลว่า ‘ปัญหาเรื่องเงิน’ เป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คู่รัก ‘แยกทางกัน’ มากที่สุด ทำให้แม้เราจะรู้ว่าเรื่องเงินนั้นสำคัญต่อชีวิตคู่แค่ไหน แต่สุดท้ายเราต่างหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงมัน เพราะแค่เปิดปากพูดนิดเดียวก็ทะเลาะกันแล้ว
ถ้าพูดแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ต้องพูดเรื่องเงินไม่ดีกว่าหรอ?
ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินมากว่า 20 ปี ฮอร์เวิร์ด ดอว์คิน ประธาน Debt.com มองว่า เป็นเรื่องปกติที่คู่รักจะกำหนดเส้นทางชีวิต และเป้าหมายชีวิตระยะยาวร่วมกัน เช่น วางแผนมีครอบครัว หรือซื้อบ้านสักหลัง แต่เป้าหมายเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้า ‘ไม่มีเงิน’
“จริงๆ แล้ว คุณควรพูดคุยกันเรื่องเงิน ไลฟ์สไตล์ เป้าหมาย และความฝันของกันและกัน” ฮอร์เวิร์ดกล่าว “เพราะเงินนั้นส่งผลต่อความฝันของคุณทั้งสอง แต่ถ้าคุณเลือกที่จะมีความสัมพันธ์กับหนี้สินแทน ความฝันของคุณอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงไป”
วันวาเลนไทน์นี้ อาจจะเรียกได้ว่าเป็นโอกาสเหมาะที่คู่รักจะได้ใช้เวลาพูดคุย และวางแผนเรื่องอนาคตด้วยกัน ซึ่งเป็นโอกาสเหมาะที่จะได้วางแผนการบริหารเงินเพื่อจับมือกันไปถึงเป้าหมายชีวิตคู่ในอนาคตด้วย และถ้ายังไม่รู้จะเริ่มอย่างไรดี วันนี้ aomMONEY มีวิธีจากคุณฮอร์เวิร์ดมาฝากกัน
1. เปิดใจรับฟังเรื่องการเงินจากอีกฝ่าย
หากคุณยังไม่รู้จะเริ่มพูดอย่างไรดี อันดับแรกให้รับฟังจากอีกฝ่ายก่อน อาจเริ่มจากคำถามง่ายๆ เช่น คุณมีความรู้สึกยังไงกับเงิน สำหรับคุณแล้วเงินคืออะไร หรือจะเป็นคุณกับเงินโตมาด้วยกันอย่างไร เพื่อทำความเข้าใจมุมมองที่มีต่อเงินของอีกฝ่าย
จากนั้นจึงค่อยเริ่มแชร์ในมุมของตัวเองบ้าง เพราะการเริ่มต้นทำความเข้าใจอีกฝ่ายจากจุดที่เล็กที่สุด จะทำให้เราสามารถพูดถึงประเด็นที่จริงจังขึ้นโดยหลีกเลี่ยงการทะเลาะเบาะแว้งจากความเข้าใจผิดได้
2. ไม่ตัดสินพฤติกรรมการใช้จ่ายของกันและกัน
สิ่งสำคัญที่ต้องไม่ลืมคือเราทุกคนล้วนมีความต้องการที่แตกต่างกัน หากแฟนของเราเป็นคนชอบชอปปิงนั่นเป็นเรื่องปกติ แต่วันที่เราเห็นแล้วว่าแฟนเริ่มบ่นเรื่องเงินเก็บ หรือมักจะซื้อของที่ไม่ได้ใช้งานจริงมาอยู่บ่อยๆ สิ่งที่เราควรทำ ไม่ใช่การ ‘ห้ามแฟนซื้อ’ แต่เป็น ‘ช่วยแฟนเลือก’ โดยให้เหตุผลจริงๆ ว่าทำไมควรจะซื้อ หรือไม่ควรจะซื้อของชิ้นนั้นด้วยเหตุผล
การทำแบบนี้จะช่วยให้ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นขึ้นในหลายทาง โดยเขาจะรู้สึกสบายใจที่จะบอกโดยไม่ปิดบังว่าเขากำลังจะใช้เงินไปกับชองที่ชอบ ส่วนเราก็จะได้ช่วยแฟนเลือกของที่เหมาะสมจะซื้ออีกทางหนึ่งด้วย
หรือหากเราเป็นคนที่ชอบชอปปิงสะเอง นั่นหมายความว่า ในวันที่แฟนอยากเปิดใจกับเราเรื่องการชอปปิงมากเกินไป เราต้องเปิดใจรับฟังเหตุผลของแฟนด้วย และหากเราต้องการจะซื้อมันจริงๆ ก็ลองให้เหตุผลอย่างไม่ปิดบังกับเขาดู
3. อย่าเลี่ยงที่จะพูดถึง ‘หนี้’
การเป็นหนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก หรือน่าอายใดๆ แต่คู่รักมักหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงมันเพราะ ‘ละเอียดอ่อน’ และนำไปสู่การทะเลาะกันได้ง่าย แต่อยากให้เปิดใจคุยกัน ยิ่งเป็นคู่รักที่วางเป้าหมายจะแต่งงาน สร้างครอบครัว การมีหนี้จะทำให้เป้าหมายตรงนี้ช้าลงอย่างมาก สิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นคือการแจกแจงหนี้ว่าตนมีหนี้เท่าไหร่ ตรงไหนบ้าง ซึ่งจะทำให้เราเห็นว่าจะต้องวางแผนอย่างไร หรือใช้เงิน และเวลาเท่าไหร่เพื่อเคลียร์หนี้ต่างๆ ออก เพื่อให้มีช่องทางเดินหน้าต่อไปด้วยกันได้
4. กำหนดวัน ‘คุยเรื่องเงิน’
อย่างที่ได้บอกไปว่าเรื่องแผนการเงินนั้นเป็นเรื่องระยะยาว ซึ่งจำเป็นต้องติดตามผล และปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์อยู่เสมอ คู่รักอาจกำหนด 1 วันต่อสัปดาห์ หรือต่อเดือน เพื่อดูความคืบหน้าว่าตอนนี้เราอยู่ตรงไหนแล้วในเส้นทางสู่เป้าหมายของเรา ที่ผ่านมาเราเจออุปสรรคอะไรบ้าง และจะฝ่าฟัน หรือหลีกเลี่ยงมันอย่างไร การทำเช่นนี้จะทำให้เรารู้สถานการณ์การเงินของกันและกัน ซึ่งจะไม่ทำให้ใครต้องรู้สึกว่าถูกทิ้งให้เจอกับปัญหาคนเดียว
5. ศึกษาหาความรู้ หรือขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
เพื่อให้การวางแผนการเงินเป็นไปอย่างราบรื่น การหาความรู้ด้านการเงินอยู่เสมอนั้นเป็นเรื่องสำคัญมาก หรือหากเส้นทางการเงินของเรามาถึงจุดที่ต้องตัดสินใจอย่างระมัดระวัง การขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินก็นับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะตัดสินใจพลาดได้ โดยเราจะเข้าใจมากขึ้นว่าการตัดสินใจแต่ละรูปแบบจะนำไปสู่ผลลัพธ์แบบใด
แอนนา เซล ผู้จัดรายการพอดแคสต์ด้านการเงิน และชีวิต ‘Death, Sex & Money’ และผู้เขียนหนังสือ ‘Let's Talk About Hard Things’ บอกไว้ในบทความบนเว็บไซต์ ‘The New York Times’ ว่า
“การคุยเรื่องเงินแบบเปิดเผย คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราคุยเรื่องเงินกันได้ดีขึ้น คุณจะเข้าใจพื้นฐานความเชื่อของกันและกัน เพื่อเปลี่ยนมันให้กลายเป็นการลงมือทำจริง โดยมุมมองที่แบ่งปันกันของคู่รักจะมีด้านใหม่ๆ เกิดขึ้นเสมอ และเมื่อเราคุยกันได้อย่างสบายใจมากขึ้นเกี่ยวกับเรื่องเงิน และอุปสรรคต่างๆ คุณก็จะพร้อมถาม และมอบการช่วยเหลือให้คนที่คุณรักในชีวิตด้วย”
เรียบเรียง: ชลทิศ ทองไพจิตร
ภาพ: ภควดี เขมะพานิช