ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผู้คนได้หันมาให้ความสนใจกับสุขภาพของตนเองมากขึ้น ทั้งรูปแบบการดูแลตัวเองต่าง ๆ รวมไปถึงการทำประกันสุขภาพ แน่นอนว่าการทำประกันนั้นนับได้ว่าเป็นเกราะป้องกันชั้นดี ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้เราใช้ชีวิตได้อย่างมั่นคง 

วันนี้นายปกป้อง และ aomMONEY จึงอยากชวนเพื่อน ๆ ทุกคนมาเจาะประเด็นเกี่ยวกับประกันภัย และแบบประกันชีวิตให้ลึกขึ้นกันอีกสักหน่อย พร้อมชวนดูเหตุผลว่า ทำไม ? เราจึงควรมีแบบประกันภัยติดตัวไว้ 

ชวนดู 6 เหตุผลที่เราควรมีแบบประกันภัยติดตัว

เพราะชีวิตคือความ ‘ไม่แน่นอน’

ไม่มีใครรู้ได้เลยว่าในอนาคตข้างหน้าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง หลายคนพยายามดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ทั้งออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่ก็ไม่ได้รับประกันได้ว่าอาการเจ็บป่วยจะไม่มีวันเกิดขึ้น หรือคนที่ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังอยู่ตลอดเวลา ก็ยังเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ การเริ่มวางแผนทำประกันตั้งแต่ตอนนี้จึงเป็นตัวเลือกที่ทำให้ชีวิตในวันข้างหน้าไม่มีสะดุด

เป็นเครื่องมือบริหารการเงินที่ดี

ทุกวันนี้ประกันหลายตัวได้ออกแบบมาให้เราสามารถบริหารการเงินได้ง่ายขึ้น เช่น ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ หรือประกันชีวิตควบการลงทุนที่ทำให้เรามีเงินก้อนงอกเงยขึ้นไปพร้อมกับรับความคุ้มครองชีวิตเช่นเดิม นอกจากนี้ประกันหลายชนิดยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ ทำให้เรามีเงินเก็บในกระเป๋ามากขึ้น

เลือกความคุ้มครองให้กับชีวิต ในทุกเรื่องที่เรากังวล

เราสามารถเลือกซื้อประกันให้ครอบคลุมกับทุกเรื่องในชีวิตได้ง่าย ๆ เช่น ใครที่กังวลเรื่องสุขภาพ สามารถเลือกทำประกันภัยบุคคล หรือใครที่เป็นห่วงทรัพย์สินอาจจะหันไปดูประกันทรัพย์สินแทน เป็นต้น

หลักประกันรายได้ทั้งยามเกษียณ

แบบประกันอย่าง ประกันบำนาญ จะจ่ายเงินให้เราในรูปแบบเงินบำนาญเมื่อครบช่วงอายุที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ทำให้เรามั่นใจได้ว่าจะมีเงินใช้จ่ายแม้จะไม่ได้อยู่ในช่วงทำงานแล้ว

เป็นมรดกส่งต่อให้ลูกหลาน

เป็นปกติของประกันชีวิตที่จะมีความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตเป็นเงินก้อน ตามที่ระบุในกรมธรรม์ ซึ่งเงินในส่วนนี้เราสามารถยกให้ผู้รับประโยชน์อย่างเช่นลูกหลานได้ 

ช่วยผ่อนภาระให้เรา เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

แม้เราจะเจอกับโรคภัยไม่คาดคิด หรืออุบัติเหตุกะทันหัน ก็มั่นใจได้ว่าจะมีเงินทุนสำรองมาใช้จ่าย เพื่อให้เราสามารถบริหารการเงินได้ในทุกเวลาไม่มีสะดุด

ทำความเข้าใจอีกที ‘ประกันชีวิต’ คุ้มครองเราตอนไหนบ้าง?

เมื่อมาถึงตรงนี้ นายปกป้อง อยากชวนทุกคนมาดูตัวแบบประกันชีวิตกันอีกครั้งหนึ่ง เพราะหลายคนยังมีความเข้าใจอยู่ว่า ‘ประกันชีวิต’ คือประกันที่จ่ายเงินก้อนเมื่อเราเสียชีวิตไปเท่านั้น ทำให้ผู้คนไม่น้อย โดยเฉพาะคนยุคนี้ ที่มีแนวโน้มไม่อยากมีลูกมากขึ้น จึงรู้สึกว่าไม่รู้จะเอาเงินก้อนนี้ไปเป็นมรดกให้ใคร และเลือกทำประกันสุขภาพแทนเพราะรู้สึกว่าได้ใช้ประโยชน์มากกว่า 

ความเข้าใจนี้นับว่าถูกต้อง แต่ยังไม่ใช่ทั้งหมด เพราะจริง ๆ แล้วเราอาจกล่าวได้ว่าประกันชีวิต คือประกันที่ ‘คุ้มครองชีวิต’ ซึ่งรวมถึงตอนยังมีชีวิตด้วย และมีความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต จึงจะครบถ้วนมากกว่า 

คุ้มครองชีวิตอย่างไร ต่างจากประกันสุขภาพตรงไหน?

สำหรับตัวประกันสุขภาพนั้น เมื่อมาทำความเข้าใจกันอีกที เราจะเห็นได้ว่า แบบประกันตัวนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองสุขภาพเพียงอย่างเดียว โดยจะคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยใน ค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยนอก ค่าผ่าตัด และค่าชดเชยในการนอนโรงพยาบาล

แต่แบบประกันชีวิตนั้น เรียกได้ว่ามีความหลากหลายมากกว่า เพราะในแบบประกันชีวิตบางตัว เราสามารถซื้อสัญญาความคุ้มครองสุขภาพได้ไม่ต่างกับประกันสุขภาพเลย ในขณะที่ยังได้รับความคุ้มครองด้านอื่น ๆ รวมถึงเงินสินไหมอยู่เช่นเดิม

แล้วซื้อประกันแค่ไหนถึงเรียกว่า ‘เหมาะสม’?

เมื่อเราทราบเหตุผลที่ควรทำประกันไปแล้ว หลายคนอาจจะเกิดคำถามขึ้นว่า แล้วซื้อประกันเท่าไหร่ จึงเรียกว่าเหมาะสมกับรายได้ และความต้องการของเรา 

นายปกป้องมองว่า สัดส่วนเพียง 10% ของรายได้ต่อเดือนเราก็นับว่าเพียงพอแล้วในการทำแบบประกันภัย หรือหากใครที่มองว่าอยากทำประกันภัยไว้หลากหลายรูปแบบ จะเพิ่มไปที่ 20% ได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น เรามีเงินเดือน 20,000 บาท การแบ่งไปทำประกันภัยสัก 2,000 ก็ฟังดูสมเหตุสมผลดี ซึ่งหากเรามีรายได้เพิ่มขึ้น อาจพิจารณาเพิ่มเงินสัดส่วนนี้เพื่อรับความคุ้มครองที่มากขึ้นในอนาคต

รวมให้แล้วประกันภัยแบบไหน เหมาะกับใคร?

  • อยากมีมรดกตกทอดให้ลูกหลาน ไม่ต้องลำบากเมื่อไม่มีเรา ให้เลือกทำ ‘แบบประกันชีวิต’
  • จ่ายเบี้ยประกันน้อย แต่ความคุ้มครองสูง พร้อมเลือกระยะเวลาคุ้มครองได้ตามใจ ดู ‘แบบกระกันชีวิตชั่วระยะเวลา’
  • กังวลเรื่องความคุ้มครอง อยากได้ประกันที่คุ้มครองยาวนาน ลองดู ‘แบบประกันชีวิตตลอดชีพ’
  • หลักประกันรายได้ เมื่อพ้นช่วงวัยทำงาน ไปที่ ‘แบบประกันบำนาญ’
  • ความคุ้มครองชีวิตสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ ต้อง ‘แบบประกันเพื่อผู้สูงอายุ’
  • มองหาช่องทางให้เงินงอกเงยขึ้น พร้อมรับความคุ้มครองควบคู่กัน เลือก ‘แบบประกันชีวิตควบการลงทุน’
  • ต้องการเก็บเงินให้ได้ก้อนใหญ่ พร้อมรับความคุ้มครองไปด้วย เลือก ‘แบบประกันชีวิตสะสมทรัพย์’
  • อยากได้ความคุ้มครองแบบประกันชีวิต แต่ต้องการความคุ้มครองเรื่องสุขภาพเพิ่มเติมด้วย มองหา ‘แบบประกันชีวิตพ่วงสัญญาคุ้มครองสุขภาพ’

ทั้งหมดนี้คือเหตุผลว่า ทำไม ? เราจึงควรมีแบบประกันภัยติดตัวไว้ ที่นายปกป้อง และ aomMONEY ได้รวบรวมมาให้เพื่อน ๆ โดยเราจะเห็นได้ว่าเราไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันแพงเลย เพียงแค่ 10% ต่อเดือน ก็ได้รับความคุ้มครองชีวิตเพิ่มเติม ให้เราได้ใช้ชีวิตอย่างมั่นใจ ในทุกช่วงเวลาอันแสนมีค่าของเรา

บทความนี้เป็น Advertorial